วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

หลวงพ่อทวด


 https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000096805



MGR Online


ทรงคุณค่า เปิดกรุหลวงปู่ทวดต้นตระกูลคณานุรักษ์ เผยครั้งแรกหนังสือประวัติการสร้าง พร้อมเฉลยเหรียญดรามามีหรือไม่ในบันทึกตระกูล

เผยแพร่: 9 ต.ค. 2568 19:05   ปรับปรุง: 9 ต.ค. 2568 19:05   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รายการ โหนกระแส วันที่ 9 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 ยังตามกันต่อกับประเด็นศึกวิวาทะเซียนพระ “บอย ท่าพระจันทร์” กับ “โอ๊ต บางแพ” กับประเด็น เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 ไม่ผ่าปาก เนื้อทองคำ ว่าเป็นของแท้หรือไม่แท้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเอ่ยพาดพิงถึงตระกูลคณานุรักษ์ในฐานะผู้สร้าง แต่คนในตระกูลออกมายันว่าตระกูลคณานุรักษ์ไม่ได้สร้างเหรียญรุ่นนี้ โดยวันนี้รายการสัมภาษณ์รุ่นเหลนคณานุรักษ์ “ป้อม นรบดี คณานุรักษ์” มาพร้อม “รัน มรดกไทย”

คุณป้อมเป็นทายาท?

นรบดี : เป็นรุ่นเหลนครับ คุณอนันต์เป็นคุณทวดผม คุณทวดอนันต์มีลูก 8 คน ในหนังสือรุ่นก็มีอยู่ คุณตามานพ เป็นลูกชายคนโต ขอกล่าวตอนต้นก่อนนิดนึง มาครั้งนี้เนื่องจากเราคุยกันเมื่อคืนนี้ และพี่หนุ่มให้มาวันนี้เลย ผมไม่มีเวลาขออนุญาตญาติผู้ใหญ่ต้นตระกูลคณานุรักษ์ทั้งหมด ผมขออนุญาตบางคนแล้ว ผมขออนุญาตคุณลุง คุณป้า ทุกๆ คนในการเปิดเผยข้อมูลบันทึกของคุณทวดอนันต์ที่ผมมีอยู่เล่มนี้ เพื่อเปิดเผยความจริง เพื่อเป็นวิทยาทาน บันทึกนี้บางช่วงบางตอน มีการเขียนว่าเป็นนิมิตเกิดขึ้นมา ท่านอาจารย์ทิมนั่งสมาธิสนทนากับหลวงปู่ทวด ตรงนี้ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังรับชม เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ แต่คุณทวดผมเขียนไว้อย่างนั้นในเล่มนี้

ขณะนั้นท่านอยู่ปัตตานี?

นรบดี : ใช่ครับ ผมเกิดไม่ทันคุณทวด คุณทวดมีลูก 8 คน คุณตามานพเป็นลูกชายคนโต คุณตามานพมีลูกอีก 5 คน คุณแม่ผมเป็นลูกคนสุดท้ายของคุณตามานพ คุณแม่ชื่อคุณนงลักษณ์ แล้วก็มาเป็นผม เนื่องจากว่าหลานชายสายคุณตามานพ ลูกชายใช้นามสกุลอื่น คุณยายผมเลยให้ผมเปลี่ยนนามสกุลมาคนนึงเพื่อสืบเชื้อสายทางคุณตามานพ ผมเลยใช้นามสกุลคณานุรักษ์

ตระกูลคุณอนันต์หลายคน หนังสือเล่มนี้เชื่อว่าคนนอกไม่ค่อยได้เห็น คุณรันเคยเห็นมั้ย ขนาดคร่ำหวอดอยู่ในวงการ?

รัน : ตัวผมก็ไม่เคยเห็น เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกครับ

ในนี้จะเป็นเรื่องราวตระกูลเขา ว่าคุณอนันต์มาจากไหน คุณมานพเป็นสายต่างๆ นานา ประวัติ ที่มาที่ไปตระกูล มีภาพต่างๆ นานาในนี้ แต่ไม่มีเซียนพระคนไหนหรือคนเล่นพระคนไหนได้เห็น เพราะอยู่ในตระกูลของเขา รวมทั้งมีพระต่างๆ นานา ที่คุณอนันต์ทำเอาไว้ด้วย ปรากฏอยู่ในนี้ มีประมาณกี่เล่ม?

นรบดี : มีเล่มเดียวครับ หมายความว่าทำออกมาในตระกูลผมไม่แน่ใจว่าทางคุณกรรมการ คุณน้าประยูรเดช คุณปานเทพ หรือญาติๆ หลายคนทางปัตตานีได้ทำเป็นทำเนียบตระกูลไว้ และเอาไว้แจกจ่ายในตระกูลที่ปัตตานี ณ ตอนนั้น เอาไว้ให้ลูกหลานได้ดู

ที่มาที่ไป ทำไมคุณทวดถึงมีความผูกพันกับหลวงปู่ทวด?

นรบดี : คืนนึง ประมาณปี 2495 เป็นนิมิตครั้งแรก ท่านฝันว่าหลวงพ่อทวดมาแล้วให้ยาลูกกลอนท่านทานหนึ่งเม็ดและสวมมงคลให้ท่านในฝัน ณ ตอนนั้น เชิงว่าหลวงพ่อทวดรับคุณทวดอนันต์เป็นศิษย์เพื่อใช้งานต่อไปในอนาคต พอฝันเสร็จหลวงพ่อทวดก็เดินหายไปในทิศทางวัดช้างไห้ ซึ่งห่างจากบ้านคุณทวดประมาณ 31 กิโลเมตร มีในบันทึก หลังจากนั้นอีก 2 ปี คุณทวดอนันต์ถึงได้มีโอกาสพาลูกๆ ท่าน กำนัน สมัยนั้น ไปที่วัดช้างไห้ สนทนากับพระอาจารย์ทิม ตอนนั้นวัดบูรณะโบสถ์อยู่ เนื่องจากวัดไม่มีเงินบูรณะต่อ ก็เลยถามพระอาจารย์ทิมว่าจะสร้างพระมั้ย ท่านบอกว่าท่านเองเคยคิดจะสร้าง แต่ไม่มีฟันดิ้งตอนนั้น คุณทวดอนันต์ก็เลยสาบานตัวเป็นผู้หา ทำพระเครื่องเพื่อหาเงินมาบูรณะโบสถ์

สิ่งที่คุณป้อมเล่ามา ทั้งหมดอยู่ในบันทึกเล่มนี้ อีกเล่มคือประวัติความเป็นมาตระกูล รวมถึงในนี้จะมีเทือกเถาเหล่ากอตระกูลคณานุรักษ์ ส่วนเล่มนี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นบันทึกโดยลายมือคุณอนันต์ ผู้ก่อสร้างหลวงปู่ทวดตั้งแต่แรก ผมเชื่อว่าไม่มีใครได้เห็นแม้แต่คนในตระกูลบางคนก็ยังไม่เห็นด้วยซ้ำ ยกเว้นสายตรง เขาไม่เคยรู้เลยว่ามี?

รัน : แม้กระทั่งหนังสือเล่มนี้ ผมยังไม่เคยรู้เลยว่ามี

ในนี้มีรายชื่อผู้รับพระเครื่อง คุณปู่เขียนเอาไว้หมดว่าให้ใครบ้าง ส่วนใหญ่เป็นตร. ทหาร ข้าราชการ มีชื่ออยู่ในนี้?

นรบดี : น่าจะเป็นล็อตแรกๆ ที่ท่านแจก ตอนสร้างเนื้อว่านเสร็จ

รายชื่อที่ 39 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ เสด็จพระองค์ชายเล็ก แห่งตระกูลยุคล เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับหลวงปู่ทวดไปด้วย ณ ขณะนั้น แต่ผมอาจเปิดไม่หมดนะ วันที่ 4 ก.พ. 2497 ตรงกับวันพฤหัสฯ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ปีใหม่จีน นายอนันต์ คณานุรักษ์ ชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ตลาดนาประดู่ มีนายชาติ นายทวีจิตกุล นายวิจิตร ไปที่วัดช้างไห้ ไปพบท่านอาจารย์ทิม การสนทนาตอนนึงข้าพเจ้าเรียนถามท่านพระครูว่า การสร้างโบสถ์ต้องสร้างอย่างไร ท่านอาจารย์มีติด มีอะไรมั้ย ถ้าจะสร้างพระเครื่องรางขึ้น ในนี้เป็นรายละเอียดต่างๆ นานา ตอนนั้นตกลงจะสร้างพระขึ้นมา?

นรบดี : ใช่ครับ คือหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ซึ่งรายละเอียดตอนแรก พอไปถึงวัดช้างไห้ คุยกับพระอาจารย์ทิมเรื่องสร้างพระแล้ว ตอนแรกจะสร้างเป็นเนื้อดินแดง ขออนุญาตอ่านตามที่คุณทวดเขียน ข้าพเจ้าก็เกิดอาการขนพองสยองเกล้าขึ้นอีกครั้งอย่างแรง และได้เห็นพระเครื่องขึ้นมาในมโนภาพ ปรากฏเป็นภาพพระภิกษุชรานั่งสมาธิเพชรอยู่บนฐานดอกบัว รองรับพระองค์ด้วยเครื่องสีดำ ดังองค์พระในว่านที่ทำแจกแล้ว ข้าพเจ้ายกมือขึ้นดูนาฬิกา ณ เวลานั้น เป็นเวลา 13.25 น. นี่คือเห็นนิมิต ตอนแรกจะสร้างเป็นดินแดง แต่เห็นนิมิตเป็นสีดำ เลยสร้างเป็นแบบนี้

ทราบประวัติมั้ย?

รัน : พอทราบบ้าง

อันนี้คืออะไร?

นรบดี : แม่พิมพ์ขี้ผึ้งครับ พอจะสร้างพระเครื่อง คุณอนันต์ก็ให้คุณวิทยา ซึ่งเป็นน้องต่างมารดา แกะเบ้าพิมพ์ขึ้นมา ตอนแรกแกะไม่ได้ เพราะนึกไม่ออกว่าต้องแกะยังไง พอท่านไหว้บวงสรวงหลวงพ่อทวดแล้ว ท่านก็ฝันเห็นภาพหลวงพ่อทวดเดินถือไม้เท้ามา บอกว่าทำอย่างนี้ๆ พอตื่นขึ้นมา ท่านก็สมารถแกะแม่พิมพ์เบ้านี้ออกมาได้ แม่พิมพ์ขี้ผึ้งมีความอัศจรรย์ ทิ้งไว้วันนึงแล้วตรงจีวรเริ่มเป็นสีดำจากรูป

เคยเห็นมั้ย?

รัน : แม่พิมพ์ไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่พระ เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลย

ก่อนเป็นแม่พิมพ์อันนี้ ทำเสร็จเขาต้องทำเป็นองค์หล่อเหมือนเนื้อตะกั่วก่อนใช่มั้ย?

รัน : ใช่ เขาจะทำบล็อกตัวเมียขึ้นมาเพื่อกดเนื้อว่านให้กดได้ถูกต้องตามลักษณะของแม่แบบหุ่นขึ้ผึ้ง คือเอาไปถอดให้เป็นบล็อกแข็งแล้วใช้เนื้อว่านกดเข้าไป เนื้อว่านส่วนใหญ่ผ่านมือ องค์ปฐมฤกษ์ยังไม่เคยเห็น

วันนี้เอามาให้ดู?

รัน : จริงเหรอครับ

เชื่อว่าไม่เคยมีใครเคยเห็น อันนี้ของจริงเลยครับ คือรูปที่ 3 แม่พิมพ์ตะกั่วของหลวงปู่ทวด เนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ เป็นพิมพ์กรรมการรุ่นแรก ไม่มีใครเคยได้เห็นแน่นอน วันนี้คนทั้งประเทศเพิ่งเคยได้เห็น ว่าหลวงปู่ทวด ปี 2497 เนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ที่เขาเล่นกัน หากันเนี่ย แม่พิมพ์แรกที่กดไปคือที่อยู่ในมือผม ต้องบอกว่าองค์นี้คือองค์ที่คุณทวดอนันต์แขวนคออยู่ตลอดเวลา?

รัน : อันนี้ผมไม่เคยเห็น จากหุ่นขี้ผึ้งเขาต้องเทตะกั่ว เทดินไทยอยู่แล้ว เขาเรียกแม่พิมพ์ตัวผู้

ที่เราได้เห็นเซียนพระทั้งหลายที่บอกว่าผมแม่นเหลือเกิน นี่คือต้นตำรับ ก่อนคุณได้จับและส่องกันเป็นเนื้อว่าน มาจากอันนี้แหละครับ สิ่งที่อยากให้คุณผู้ชมได้เห็น และเรียนรู้กันไป เชื่อว่าหลายคนไม่เคยเห็น ไม่ได้มีชั้นเดียวนะ มีสามชั้น?

นรบดี : เป็นมรดกคุณทวด สืบทอดกันมา

ข้อเท็จจริงมันมี แล้วทุกอย่างอยู่ในบันทึกเล่มนี้ทั้งหมด พิมพ์ใหญ่ ได้รับการตอบสนองยังไงบ้างในวงการพระเครื่อง?

รัน : ถือว่าเป็นพิมพ์ที่แพงที่สุด ยังไม่นับกล่องไม้ขีดที่เป็นสี่เหลี่ยม ถ้าเป็นพวกพิมพ์เตารีด ปกติถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่จะได้รับความนิยมสูงสุดราคาแล้วแต่สภาพพระ มีตั้งแต่หลักแสน ยันหลักล้าน แล้วถ้าองค์แชมป์จริงๆ ก็หลายล้าน

คุณทวดลงบันทึกมั้ยว่าสร้างกี่องค์?

นรบดี : มีครับ ท่านพยายามสร้างให้ได้ 84,000 องค์เท่าพระธรรมขันธ์ แต่เนื่องจากว่าท่านมีฤกษ์ในการเริ่มและจบ ทำให้สร้างไม่ทัน เลยได้ 64,000 องค์

ตรงข้อมูลที่ได้มั้ย?

รัน : ตรงกับข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหลายๆ สำนัก

อันนี้จะชัดเจน เพราะท่านลงเอาไว้เลย?

นรบดี : หายไป 2 หมื่น

เมื่อคืนผมไปเจอมา ผมเห็นแล้วล่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านโดยละเอียด อ่านแค่ผ่านๆ ต้องให้คุณป้อมช่วยบอกมา มีการสร้างตรงกับวันอาทิตย์ เดือนห้า 15 ค่ำ เวลาเที่ยงตรง จึงเป็นอันว่าสร้างพระเครื่องได้เพียง 64,000 องค์ ชัดเจนนะ ท่านบอกเลยว่าตอนแรกจะสร้าง 84,000 แต่สุดท้ายได้แค่ 64,000 สร้างมีกี่พิมพ์ตอนนั้น?

นรบดี : พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์พระรอด

ในบันทึกเขียนว่า มีเบ้าพิมพ์ใหญ่ 12 เบ้า และพิมพ์พระรอด 4 เบ้า รวม 16 ตรงมั้ย?

รัน : บางสำนักก็ตรง บางสำนักก็คลาดเคลื่อนเรื่องจำนวนบล็อก หลายสำนักเข้าใจว่าน่าจะมีแม่พิมพ์แต่ละบล็อกเพียง 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น สมมติพิมพ์ใหญ่อาจมีแค่ 2 พิมพ์ 3 พิมพ์

จริงๆ แล้วมีทั้งหมด 16 แม่พิมพ์?

นรบดี : เอาองค์ปฐมปั๊มกดไปเรื่อยๆ 16 แล้วเอาเนื้อว่านใส่เข้าไป

ได้มีโอกาสคุยกับคนในตระกูลคุณอีกหนึ่งบุคคล เขาบอกว่าหลวงพ่อทวด ปี 2597 มีทั้งหมด 16 พิมพ์ แบ่งเป็นพิมพ์ใหญ่ 12 พิมพ์ พิมพ์เล็ก 4 พิมพ์ 16 พิมพ์มาจากคาถาบูชาหลวงปู่ทวด 16 คำพูด นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา เลยทำทั้งหมด 16 พิมพ์?

รัน : พิมพ์ใหญ่จำแนกอีกหลายพิมพ์ จำแนกปลีกย่อยอีก

คุณรันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนนะ นี่คือครั้งแรกเหมือนกัน?

รัน : ไม่เคยเห็นแม่พิมพ์ตัวนี้มาก่อน ได้รับเกียรติสูงสุดเลย ดูจากหน้าตา มุมหักเหของแขน การวางมือ เหมือนท่านนั่งสมาธิจริงๆ ตรงตามแม่พิมพ์ทุกประการ องค์อื่นๆ ก็มีความแตกต่าง พิมพ์กลางมีความแตกต่างจากแม่พิมพ์ตัวเดิม พิมพ์กลางน่าจะขึ้นแม่พิมพ์ใหม่ เขาจะแตกปลีกย่อยออกมา พิมพ์กลาง พิมพ์พระรอด ก็มีความผิดเพี้ยนไปจากพิมพ์ใหญ่ ลักษณะโครงสร้าง ลำตัว ความแคบลำตัว ก็จะจำแนกพิมพ์ได้

นรบดี : พิมพ์พระรอดมีแม่พิมพ์อยู่ในหนังสือ

ทำให้ได้รู้ว่าพระหลวงปู่ทวด รุ่น 2497 มีทั้งหมด 16 พิมพ์ และออกมาตามที่ผู้ชมได้เห็น?

รัน : ใช่ครับ ใหญ่ กลาง พระรอด ตามความเข้าใจของผม อย่างแม่พิมพ์น่าจะเป็นต้นแบบเตารีดด้วย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกัน เตารีด 05 แม่พิมพ์น่าจะมาจากตัวเดียวกับพระรอด ลักษณะมีความใกล้เคียงกัน เพียงแต่พิมพ์เตารีดอาจมีการตกแต่งแม่พิมพ์ใหม่เล็กน้อย อาจมีการตกแต่งบัว จีวร แต่มีความคล้ายคลึงกัน ตัวผู้คือตัวนี้ แล้วเขาไปถอดเป็นตัวอื่น ลักษณะโครงสร้าง หน้าตา ริมฝีปาก จมูก ถ้าเอกลักษณ์กับอัตลักษณ์มาจากที่เดียวกัน เอกลักษณ์เขาจะบ่งบอก ไม่ว่าลักษณะบัว ความเหลี่ยมความคมของยอดบัว ช่องว่างระหว่างขา มาจากแม่พิมพ์ตัวเดียวกัน ต่างกันแค่เนื้อ และปีพ.ศ.ที่จัดสร้าง

หน้าหลวงปู่ทวดที่เราเห็นกันอยู่ตามอินเตอร์เน็ต ตามต่างๆ นานา มาจากนิมิตคุณทวดอนันต์ ทุกคนพูดถึงหลวงปู่ทวดจะนึกถึงหน้านี้?

นรบดี : แต่ผมไม่แน่ใจนะ พระเครื่องออกมาจากคุณทวดเห็นนิมิต ออกมาเป็นแม่พิมพ์แบบนี้ แต่ถ้าเป็นรูปคนจริงๆ ไม่แน่ใจว่าท่านเห็นแล้วไปวาดหรืออะไร เพราะไม่มีในบันทึก

แต่หลายคนเชื่อว่าหน้านี้มาจากนิมิต?

นรบดี : ใช่ เพราะ 400 กว่าปีแล้ว

400 ปี ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ทวดหน้าตาเป็นยังไง อยู่ดีๆ หลวงปู่ทวดมีชื่อเสียงโด่งดังตอนที่สร้างพระ 2497 ทำไมคนไทยนิยมหลวงปู่ทวด?

รัน : จริงๆ แล้ววัตถุมงคลของหลวงพ่อทวด ส่วนใหญ่แคล้วคลาดปลอดภัย ใครห้อยเอาไว้ อาราธนา ถ้าประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะรอด เลยทำให้หลวงปู่ทวดมีชื่อเสียง ตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็กๆ จำความได้ เราเคยนั่งตัดผม อ่านหนังสือพระตามร้านตัดผม เขาลงรูปหลวงพ่อทวด พระเครื่องหลวงพ่อทวด

หลายคนให้ความนับถือ จริงๆ แล้วหลวงปู่ทวดไม่ได้มีรุ่นนั้นรุ่นเดียว?

รัน : ครับ สร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ 2497 และไล่มาเรื่อยๆ

จากนั้นคุณทวดสร้างอะไรต่อ?

รัน : วงการเขาเรียกเหรียญหัวโต เพราะสรีระโครงสร้างศีรษะหลวงพ่อทวดค่อนข้างกลม ใหญ่ คำจำกัดความของเซียนเข้าใจง่ายที่สุด ก็เลยเรียกเหรียญหัวโตติดปากมาตั้งแต่อดีตแล้ว

สององค์นี้แตกต่างกันยังไง?

รัน : องค์นี้น่าจะเป็นเหรียญผิวไฟ อีกเหรียญเป็นเหรียญกะไหล่เงิน ตามความเข้าใจน่าจะสร้างทีหลัง เพราะเหรียญผิวไฟหมดก่อน

ประกวดมาได้ที่สอง ใครเอาไปประกวด?

นรบดี : คุณพ่อครับ นานแล้ว 30 ปีที่แล้ว

ต่อมา 05 คือยังไง?

นรบดี : เริ่มจากพระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร ท่านให้เลขาฯ ท่านติดต่อมาให้คุณทวดผมไปเข้าพบ แล้วเริ่มมีการเจรจา อยากสร้าง เนื่องจากเนื้อว่าน มีคนประสบการณ์แคล้วคลาดเยอะมาก ก็เลยอยากสร้างพระอีกองค์ ตอนแรกจะทำเป็นว่าน แต่ว่าพอได้รับนิมิตติดต่อกับหลวงพ่อทวด ท่านบอกว่าเนื้อว่านแตกง่าย ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นพระโลหะ เริ่มมีการเจรจาคุยกัน

เป็นเตารีด 05 เป็นโลหะ มีกี่พิมพ์ท่านเขียนไว้มั้ย?

นรบดี : ไม่ได้เขียนรายละเอียดไว้ขนาดนั้น แต่มีเขียนว่าท่านไปพบพระองค์เจ้าที่สงขลา แล้วเหมือนว่า ณ ตอนนั้น อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ หลวงพ่อทวดลงประทับที่พระองค์เจ้าด้วย พระองค์เจ้าท่านก็วูบไป แล้วคล้ายๆ ว่าหลวงพ่อทวดท่านอยู่ตลอดนะในการสร้างพระเครื่องปี 05 ซึ่งมีบันทึกเอาไว้

บันทึกสร้างพระเครื่องเนื้อโลหะ เริ่มงานที่วัดช้างไห้ ที่ 16 พ.ค. 2505 เริ่มงาน 16 พ.ค.- 19 พ.ค. 2505 วันที่ 19 พ.ค.

2505 เวลา 9 นาฬิกา แจกพระภายในกุฐิท่านอาจารย์ทิม วันที่ 1 ธ.ค. 2504 ปรึกษาพระองค์ชายกลางที่สงขลา จะสร้างหลวงพ่อทวดเป็นครั้งที่สอง?

รัน : สมัยนั้นว่านอาจหมดไปแล้ว เนื่องจากความต้องการของคน พอมีชื่อเสียงแคล้วคลาด ปลอดภัย ก็เป็นที่ต้องการ

ท่านจดเอาไว้เรื่องความฝัน ท่านจดไว้แบบนี้?

นรบดี : ท่านนึกอะไรได้ท่านก็จดลงไป จะเป็นนิมิตของท่าน ก็จะสับมาสับไป

ท่านฝันอะไรก็ตื่นขึ้นมาแล้วจด มีเรื่องอภินิหารหลวงพ่อทวด ท่านจดต้นตระกูลคณานุรักษ์ มีอะไรบ้าง?

นรบดี : มีเรื่องเตารีด 05 อยู่ด้วย

วันที่ 29 พ.ย. 2504 เราได้รับโทรเลขจากหลวงประดิษฐ์จากสงขลา ให้เราไปพบพระองค์เจ้าเฉลิมฑิฆัมพรที่สงขลา ในวันที่ 1 ธ.ค. 2504 อันนี้เป็นการไปตกลงกันจะมีการสร้างพระเตารีด?

รัน : เป็นการรับรู้ข้อมูลไปพร้อมๆ กัน บางอย่างเซียนพระก็ไม่รู้หรอกเรื่องนี้

เป็นหนังสือที่รวบรวมตระกูลคณานุรักษ์และพระที่สร้างไว้ มีจดบันทึกไว้ในนี้ ไม่แน่ใจว่าคนรวบรวมเป็นใคร?

นรบดี : มีคุณอาประยูรเดช หมอปานเทพด้วย เป็นคณะทำงาน ทั้งถ่ายรูปต่างๆ อีกหลายๆ คนที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ขอโทษด้วยนะครับ ท่านทำอยู่หลายคน เป็นหนังสือรุ่นทำมาเพื่อแจกจ่ายในตระกูล

หลวงปู่ทวดพิมพ์เตารีด ได้รับความนิยมมั้ย?

รัน : ได้รับความนิยมครับ เช่น พวกเนื้อนวะ โลหะ โลหะได้รับความนิยมสูงสุด ไม่นับทองคำนะ ได้รับความนิยมหลักล้าน ส่วนเนื้อธรรมดาทั่วไป ถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่ ช่วงที่พีคจริงๆ 7-8 ปีที่แล้ว บางองค์สวยแชมป์ถึงล้าน ราคาค่อนข้างสูง

เก๊เยอะมั้ย?

รัน : เอาอย่างนี้ดีกว่า แท้เปอร์เซ็นต์เดียว อีก 99 เปอร์เซ็นต์เก๊ ของมีมูลค่า ราคาแพงมากๆ ก็จะมีของปลอมเยอะเป็นพิเศษ พระเครื่องยิ่งแพงมากยิ่งเก๊เยอะ ใครก็อยากได้เงิน พระแท้จะมีเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นะ

หลังเตารีดปี 05 ก็มีประเด็น เรื่องทองคำก่อนหน้า?

รัน : มีการถกเถียงกัน ความเห็นไม่ตรง บางคนบอกว่าไม่มี บางคนบอกว่ามี เสียงเลยแตกเป็นสองฝั่ง

แต่ถามคุณป้อม มีมั้ย?

นรบดี : ที่ผมทราบจากญาติๆ และตระกูลคณานุรักษ์ สายคุณทวดอนันต์มี 2 องค์ คือพิมพ์ใหญ่และพิมพ์กลาง ซึ่งพิมพ์ใหญ่คุณทวดอนันต์ถอดให้จอมพลสฤษดิ์นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นไป อีกพิมพ์นึงอยู่ที่คุณน้าผม คณานุรักษ์ ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่คุณน้าผมอยู่ ถ้าคนอื่นที่มี อาจไม่ใช่ทางคุณทวดอนันต์แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันเขาเอามาจากไหน คือสององค์ที่เป็นทองคำที่มาทางสายผมคณานุรักษ์

ขออนุญาตล่วงเกินคุณหมอปานเทพ คุณหมอเองลงเอาไว้ วันที่ 3 เดือน 10 2568 เมื่อ 6 ปีก่อนมีวาสนาได้สัมผัสหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลังเตารีด พิมพ์กลาง พ.ศ. 2505 เนื้อทองคำ ซึ่งมีช่างหล่อพระ ทำขึ้น 2 องค์ มอบให้ปู่อนันต์ ปู่ให้ย่าเสริมสุขแขวน ส่วนพิมพ์ใหญ่เนื้อทองคำ ปู่แขวนเอง แล้วถอดจากคอมอบให้นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น พิมพ์กลางคืออยู่ในคอคุณย่า?

นรบดี : ใช่ และถอดให้คุณน้าผมอีกคน ซึ่งไม่ใช่คุณหมอปานเทพ คุณน้าปานเอามาห้อยและถ่ายรูป ซึ่งองค์นี้ก็ยังอยู่ที่คุณน้าคนนั้น

คุณหมอปานเทพมีองค์เด็ดมากอยู่กับแกด้วยเหมือนกัน ส่วนพิมพ์ใหญ่ถอดจากคอให้นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ ซึ่งตรงกับที่ผมได้รับทราบมา จอมพลสฤษดิ์ มีภรรยาคือท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ ซึ่งท่านผู้หญิงวิจิตราก็มีบุตรชายคน หญิงคน คนนึงคือพี่ป้อม ซึ่งไม่ใช่ป้อมนี้นะ ป้อมลูกจอมพลสฤษดิ์ ซึ่งก็คือพี่สะใภ้ผม แล้วพระองค์พิมพ์ใหญ่ก็อยู่ที่พี่ป้อม เพราะตกทอดมาจากจอมพลสฤษดิ์ วันนี้ก็ตกทอดมาอยู่กับพี่ชายผม นี่คือพิมพ์ใหญ่?

รัน : สวย แต่งบัวแต่งขา แต่สรีระเหมือนเดิม ด้านหลังธรรมชาติ

จะเป็นสององค์นี้เท่านั้น องค์นึงอยู่ที่บ้านคุณ อีกองค์อยู่บ้านผม ส่วนองค์อื่นเราไม่ทราบ ทีนี้มาถึง 08 ที่เป็นประเด็น ว่าเกิดอะไรขึ้น วันก่อนคุณโอ๊ต บางแพมานั่งตรงนี้ บอกว่าแบงค์ไปคุยกับคนในตระกูลคณานุรักษ์ เขาบอกว่าไม่มีผ่าปาก ไม่มีประวัติการสร้างที่เป็นทอง ตกลงมีหรือไม่มี?

นรบดี : ขออนุญาตเรียนว่าผมไม่ใช่เซียนพระ ผมดูพระไม่เป็น แต่ในบันทึกนี้ พอพี่หนุ่มถามผมก็พลิกไปพลิกมาทุกหน้าเลย ไม่มีบันทึกไว้ในบันทึกเล่มนี้ สำหรับการสร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ปี 08 ดังนั้นผมไม่ทราบข้อมูลนี้ แต่สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ใช่ว่าจะไม่มี ผมไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีหรือไม่มีที่เป็นทอง เพราะไม่มีอยู่ในบันทึกของคุณทวดผม ง

พูดง่ายๆ เลื่อสมณศักดิ์ที่เป็นทอง ตระกูลคณานุรักษ์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง?

นรบดี : คิดว่าอย่างนั้น เพราะไม่ได้มีในบันทึก วัดอาจสร้างเองหรือเปล่า เพราะไม่มีข้อมูลในเล่มนี้

ถ้าบอกว่ามีคณานุรักษ์ท่านนึงบอกว่าทำ แต่ไม่มีผ่าปาก?

นรบดี : อันนั้นผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่มีข้อมูล ดีเทลในเล่มนี้เลย มีแต่สร้างพระกริ่งบัวรอบ ในปี 08 คุณทวดเขียนเอาไว้

หล่อพระกริ่งหลวงพ่อทวด 5 พันองค์ จากกรุงเทพฯ นำมาเข้าพิธีปลุกเสก ตั้งแต่คืนวันที่ 14-16 เม.ย.08 รวมทั้งหมด 3 คืน แจกจ่ายแต่ผู้โมทนา 150 บาท?

รัน : เข้าใจว่าร่วมทำบุญ 150 บาท แล้วได้พระกริ่งไป

ปัจจุบันพระกริ่งราคาเท่าไหร่?

รัน : 2 แสน 3 แสนเลยครับ นี่คือบัวรอบสวยๆ นะ อยู่ที่ 1 แสน ถึง 3-4 แสน แล้วแต่ผิว และความสวยงาม

สร้างสมทบทุนสร้างตึกสมเด็จหลวงพ่อทวด ใช้เป็นอาคารเรียน โรงเรียนประจำจังหวัดปัตตานี ในวงเงิน 5 แสนบาท ฉะนั้นพระกริ่งสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างอาคารโรงเรียนให้กับทางจังหวัด ในนี้บันทึกไว้หมด จากไทม์ไลน์ เม.ย. กลางปีแล้ว ฉะนั้นเลื่อนสมณศักดิ์ สร้างในเดือนไหน จำได้มั้ย?

รัน : จริงๆ เป็นพิธีใหญ่ แต่จำไม่ได้ว่าเดือนไหน

จริงๆ มันสามารถกระทบไทม์ไลน์ได้เลย เพราะในนี้ท่านเองมีการสร้างและมอบเงินในช่วงเม.ย. ฉะนั้นเอาตรงๆ ถ้าบุคคลๆ นึง พูดกลางๆ นะจากความรู้ที่พ่อทำพระเหมือนกัน ถ้าปีนั้นเขาสร้างพระ 1 แบบ 1 องค์แล้ว เขาจะไม่สร้างอีก เขามีสร้างซ้ำมั้ย?

รัน : มีข้อยกเว้น เนื่องจากงานเลื่อนเป็นงานใหญ่ ตัวหลวงพ่อเองได้เลื่อนสมณศักดิ์ก็อาจมีซ้อนได้

เลื่อนสมณศักดิ์สร้างธ.ค. ปี 08 ปลายปีเลย ถ้าท่านอนันต์สร้างบัวรอบแล้วในเดือนเม.ย. เดือนธ.ค. ท่านจะสร้างอีกมั้ย?

รัน : ถ้าเป็นคนโบร่ำโบราณ เขาถือฤกษ์ผานาทีเขาก็อาจจะไม่สร้างก็ได้

ที่ได้ยินมาก็เป็นแบบนั้น ส่วนใหญ่เขาจะสร้างพระปีนึงแค่ 1 ครั้ง?

รัน : ใช่ ถ้าเป็นคนโบราณนะ

ท่านสร้างบัวรอบไปแล้ว ในปีเดียวกันเขาไม่น่าสร้างอีก?

รัน : ถูกต้อง ถ้าคนโบราณเขาจะยึดถือประเพณี

อันนี้ก็ตอบไม่ได้ว่าตกลงยังไง แต่จากประวัติท่านไม่ได้เขียนเอาไว้?

นรบดี : ใช่ ไม่มีเขียนในหนังสือ

สมัยก่อน บ้านพี่ก็จะเกี่ยวกับ 3 พระองค์ พระองค์ชายกลาง พระองค์ชายใหญ่ พระองค์ชายเล็ก อยู่วังอัศวิน วังละโว้ พี่เองก็หวังว่าที่บ้านจะมี ก็เคยไปตามหา แต่ไม่รู้ยังไง ผมหาไม่เจอ ต้องไปถามพี่ ถ้าเราจะตีประเด็นเรื่องราวของเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ก็ไม่มีอยู่ในบันทึกและไม่น่าเป็นผู้สร้างด้วย ฉะนั้นต้องเป็นทางวัด ถ้าบอกว่าตระกูลคณานุรักษ์เอง ไปพูดว่าไม่มีพิมพ์นี้ จะตียังไง?

นรบดี : ผมตอบตรงๆ ผมไม่ทราบดีเทลเรื่องนี้จริงๆ ว่าตระกูลคนอื่นจะมีบันทึกเล่มอื่นมั้ย ถ้ามีก็ออกมายืนยันว่าเขาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ แต่สำหรับผมอิงหนังสือเล่มนี้ ไม่มีดีเทลในการสร้าง

หลวงพ่อทวดไม่ได้มีแค่ฝั่งตระกูลคณานุรักษ์ที่สร้าง แต่คณานุรักษ์เป็นผู้สร้างคนแรก หลังจากนั้นอาจมีคนอื่นไปสร้างหรือเปล่า ตอบไม่ได้?

รัน : แต่สมัยนั้นน่าจะมีแค่วัดช้างไห้ที่เดียว

สิ่งเหล่านี้ก็บอกได้ว่าหลวงปู่ทวดได้รับความนิยม มีหลากหลายพิมพ์ สิ่งนึงยืนยันชัดเจนแล้วแน่ๆ หลวงปู่ทวด ปี 2497 มี 16 แม่พิมพ์ ส่วนพระทองคำหลังเตารีด มี 2 องค์?

รัน : จริงๆ หลวงพ่อทวดถ้าเป็นตระกูลเหรียญ เนื้อทองคำ มีตั้งแต่รุ่นสอง สองสาม มีหมด เพราะเป็นยุคต้นๆ ตั้งแต่ 02 จนถึง 08 ที่มีข้อพิพาท ก็มีทองคำมาตั้งแต่ดั้งเดิม ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะมีหลายบล็อก เนื้อทองคำเท่าที่พบเจอ เท่าที่ปรากฏ บางอย่างก็เหมือนที่เขาพูด สิ่งที่ไม่เคยเห็นอาจจะมี ก็เป็นไปได้

นรบดี : เหมือนแม่พิมพ์ ที่ไม่มีใครเคยเห็น

รัน : ตอนแรกผมคิดว่าเขาแกะสด ลงวัสดุซึ่งแข็งแรง เช่นหินสบู่ หินมีดโกน ซึ่งเขาฮิตเอามาทำบล็อกกันอยู่แล้ว ผมเพิ่งรู้ว่าเขาขึ้นหุ่นขี้ผึ้งก่อน แล้วเทออกมาเป็นตัวแม่ เป็นตัวผู้ตัวนี้ เป็นต้นแบบ จากนั้นกดๆ ไปก็ออกมาเป็นเนื้อผง นำมวลสาร เนื้อผงไปกดๆ ไว้ ดึงออกจากแม่พิมพ์ตากให้แห้ง แล้วนำมาจำหน่ายจ่ายแจก

ถ้าเป็นเหรียญที่ไม่ใช่เนื้อว่านล่ะอย่างเนื้อโลหะ?

รัน : อดีตเป็นเหรียญเขาแกะแม่พิมพ์สดเลย แกะลงกับเหล็ก ขึ้นมาเป็นตัวผู้ แล้วถอดออกมาเป็นตัวเมีย เอามาปั๊มตัด

ก็หักล้างทฤษฎีใหม่ ก่อนปี 2500 จะไม่มีปั๊ม ส่วนใหญ่จะเป็นหล่อ?

รัน : ไม่ใช่ โบราณมา บางอย่างไล่ตั้งแต่ปี 60 ส่วนใหญ่เริ่มมีพระเหรียญแล้ว พระหล่อเริ่มมีตั้งแต่อดีตแล้ว เหรียญหล่อก็มีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แต่ถ้าเหรียญหล่อหลวงพ่อทวดรุ่นแรก เหรียญหล่อโบราณ ไม่มีปรากฏในหลักฐาน เราก็มีความเชื่อว่าไม่มี มีแต่เหรียญปั๊ม

ความชัดเจนอยู่ตรงนี้ ที่ตระกูลคณานุรักษ์มาเปิดหลักฐานต่างๆ นานา ให้ดู ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบอย ท่าพระจันทร์ กับโอ๊ต บางแพ วันนี้ที่มานั่งเพราะวันนั้นมีการพาดพิงไปถึงตระกูลเขาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เขาออกมายืนยันว่าในบันทึกไม่มีบันทึกเอาไว้ ฉะนั้นเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ไม่เกี่ยวกับตระกูลคณานุรักษ์ อาจเป็นกรรมการวัด อาจเป็นตัววัดเองที่สร้าง หรือปู่ทิมเองที่มีดำริให้ใครเป็นคนสร้างก็ได้ แต่พอบอกคณานุรักษ์พูดแบบนี้ เขาเลยออกมาบอกว่าไม่ใช่นะ ไม่มีข้อมูลว่ามีการสร้างเลื่อน แต่เหรียญเลื่อนสร้างจริง แต่ไม่ใช่ตระกูลเขาไปสร้าง อาจเป็นตระกูลอื่นไปสร้าง?

นรบดี : ถ้าคณานุรักษ์คนไหนมีหลักฐาน มีบันทึกก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน แต่สำหรับบันทึกที่ผมได้รับสืบทอดมา ไม่มีในบันทึก

คุณได้คุยกับญาติพี่น้องมั้ย อยากทำอะไรเกี่ยวกับคุณทวดอนันต์?

นรบดี : อนาคตอยากสร้างเป็นอนุสรณ์สถานให้หลวงปู่ทวดอนันต์ แต่เป็นแพลนอีกนานๆ ต้องคุยอีกหลายคน เพราะตระกูลเกี่ยวพันกับหลายคน นี่เป็นแค่ไอเดียเริ่มต้นเฉยๆ จริงๆ พวกนี้เป็นประวัติศาสตร์ ต้องเก็บไว้ให้ดีๆ

ผมมีโอกาสคุยกับพ่อตาคุณด้วย เขาบอกว่าจริงๆ อยากให้ทำเป็นอีบุ๊ค ให้คนได้สืบสาน ได้เห็น ได้ค้นคว้าได้รู้ เดี๋ยวศึกษาแล้วจะหาวิธีการทำให้ตรงนี้ ถ้าสามารถเผยแพร่ออกไปได้เป็นวิทยาทานเป็นความรู้ให้คนรุ่นหลังก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเซียนพระบางท่านอาจฟังข้อมูลผิดๆ มา ก็จะได้มาดูข้อเท็จจริงว่าเป็นแบบนี้ บางคนอาจไม่รู้เลยว่าปี 2547 บางคนบอกว่ามีบล็อกเดียว บางคนบอกมีสองบล็อก?

รัน : ผมไม่เคยทราบว่ามีถึง 16 บล็อก

เป็นไปตามบทสวดหลวงปู่ทวด?

รัน : อันนี้เป็นความรู้ใหม่ เป็นไปตามบทสวด

16 คำ เขาถอดมาจาก 16 คำที่เป็นบทสวด ก็เลยเป็น 16 แม่พิมพ์ ถือว่าวันนี้ได้ความรู้?

รัน : ได้ข้อมูลใหม่ๆ

ประทับใจองค์ต้นเบิกฤกษ์ อยู่ในคอคุณอนันต์?

นรบดี : ท่านแขวนอยู่องค์เดียว จนท่านสิ้นในปี 12

รัน : ปีเดียวกับอาจารย์ทิม ปี 12

องค์นี้เด็ดมาก?

รัน : ทีเด็ดเลย ต้นแบบของทุกอย่าง ว่าน หรือโลหะ แม่พิมพ์ตัวเดียวกันครับ

คุณโชคดีมาก เก็บเอาไว้ดีๆ นะ?

นรบดี : ครับผม

รัน : ที่เขามีอยู่ระดับแชมป์หมดเลยนะ

ประกวดได้ที่หนึ่งทั้งนั้น?

นรบดี : แต่บ้านผมมีญาติพี่น้องคนอื่นอีก ประมาณนี้เหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่ได้ประกวดหรือเผยแพร่อะไร

อย่างที่คุณป้อมบอก สิ่งที่ไม่เคยเห็น ใช่ว่าจะไม่มี ส่วนเรื่องเหรียญปี 08 ก็ไปว่ากัน เราดำเนินการเป็นภาคแยกมาให้ดูว่าหลวงปู่ทวดเป็นยังไง คนเอาตระกูลเขาเป็นข้อพิพาท ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ มีการสร้างจริงๆ เกิดขึ้นในเดือนธ.ค.ปี 08 แต่ไม่เกี่ยวกับตระกูลเขา?

รัน : เรายังสืบค้นไม่ได้ว่าใครเป็นผู้สร้างเท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องมีบล็อกผ่าปากหรือไม่มีผ่าปากในเหรียญทอง อันนั้นก็ต้องไปค้นหา?

รัน : ต้องหาข้อพิสูจน์มาพิสูจน์กันแค่นั้นเอง

ถ้าวันนึงคุณโอ๊ตมีหลักฐานยืนยันได้ก็ออกมาพิสูจน์ได้ คุณบอยเองหาหลักฐานได้ว่ามี ก็เอามาออกมาพิสูจน์ได้เหมือนกัน?

นรบดี : เป็นเกียรติที่ได้เผยแพร่สิ่งที่คุณทวดอนันต์เขียนจารึกไว้ในสมุดโน้ตเล่มนี้เพื่อเป็นวิทยาทานให้ประชาชนชาวไทยที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อทวดได้รู้ในมุมคุณทวดอนันต์ ประวัติการสร้างพระเครื่อง

รัน : ผมถือว่าเป็นผู้สังเกตการณ์ที่โชคดีมาก (หัวเราะ)




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000098195

ใครเงิบ? 5 เซียนพระฟันธงแล้ว เหรียญเจ้าปัญหา แท้หรือเก๊! กรรชัยเตรียมผุดรายการพระเครื่อง

เผยแพร่: 14 ต.ค. 2568 17:29   ปรับปรุง: 14 ต.ค. 2568 17:29   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรณีข้อพิพาทระหว่าง “บอย ท่าพระจันทร์” และ “โอ๊ต บางแพ” ปมเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 ไม่ผ่าปาก เนื้อทองคำ ว่าเป็นของแท้หรือไม่แท้ ซึ่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้าง มีการเรียกร้องให้หาข้อสรุปว่าเหรียญดังกล่าว แท้หรือเก๊กันแน่

รายการ โหนกระแส วันที่ 14 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 สัมภาษณ์ ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย , พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย , ป๋าต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย , อุ๊ กรุงสยาม ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย , อ.เทียม ปัตตานี ประธานประสานงานภาคใต้สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย

มีการถกเถียงกันเยอะมาก ในฐานะป๋าเป็นนายกสมาคม รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้?

พยัพ : จริงๆ เรื่องนี้ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างความเห็น ไม่มีใครผิดใครถูก แต่มันมีความเห็นต่างกันสองฝ่าย แต่หลักฐานอยู่ที่ความเป็นจริง หนีไม่ออกหรอกครับ วันนี้ที่พวกเรามา ไม่ได้เข้าฝ่ายนึงฝ่ายใด มาด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรม สิ่งที่ไม่เคยเห็นยังมีอีกเยอะมาก

รู้จักทั้งบอยและโอ๊ต?

พยัพ : น้องรักทั้งคู่ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างจบที่หลักฐานและข้อมูล และตัวเหรียญ

ป๋าต้อย รู้จักทั้งคู่มั้ย?

ป๋าต้อย : รู้จักดี

เครียดมั้ย วงการไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้?

ป๋าต้อย : จริงๆ ไม่ใช่เรื่องยากเย็น การตัดสินพระยากกว่านี้พวกเรายังตัดสินมาแล้ว แต่มันเป็นกระแส และความไม่เห็นพ้องต้องกัน มันมีมากกว่าพระอย่างอื่น ปกติถ้าเรามีเหตุผลมันก็ยุติได้ว่าเก๊หรือแท้ แต่นี่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ฝ่ายนึงเขาซื้อมาถูกต้อง เขาก็คิดว่ามันไม่ผิด ก็เกิดความคิดแตกแยกกัน แต่ถ้าพูดถึงพระถ้าเหตุผลที่ถูกต้องแล้ว อย่างเช่นตัวตัดจบ เหรียญปั๊มจบ เหรียญหล่อไม่จบ หรือข้างที่ต่างกัน มันก็ไม่จบ มันฟ้องอยู่ในตัวอยู่แล้ว เหรียญต้องเป็นการปั๊ม เมื่อปั๊มขอบข้างต้องเหมือนกัน เมื่อเหมือนกันความคมชัด วัสดุต่างๆ หรือพิมพ์ไม่เพี้ยน ต้องแท้อยู่แล้ว แล้วเรามีตรงนี้มั้ย

เห็นของจริงหรือยัง?

ป๋าต้อย : เห็นแล้ว

ทุกคนเคยเห็นก่อนเป็นองค์จริงมั้ย?

ชัยนฤทธิ์ : เหรียญนี้เคยเข้ามาที่ร้าน ก่อนบอยถือครับ ตอนนั้นผมฟังราคาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะเหรียญไม่ใช่บล็อกผ่าปาก ราคาเวอร์ไปหลายล้าน เราก็ไม่ได้ตั้งใจดูมากมาย เราก็ปล่อยผ่านไป

ปกติดูปู่ทวดเป็นหลักมั้ย?

ชัยนฤทธิ์ : ก็หลัก ดูได้หลายอย่าง กับโอ๊ตกับบอยก็รู้จักหมด ก็ไม่อยากให้มีประเด็นเกิดขึ้น อยากให้น้องรักกัน

สองท่านก็ดูเชื่อถือพี่นะ?

ชัยนฤทธิ์ : ขอบคุณครับ

ขณะเดียวกัน อ.เทียมเอง เป็นเซียนสายใต้?

เทียม : ผมตัดสินหลวงปู่ทวดให้สมาคมพร้อมคุณชัยนฤทธิ์และคุณอุ๊มานานมากแล้วครับ ร่วม 20 ปี

ถ้าพี่ชัยนฤทธิ์พี่จะเป็นคนดูเหรอ?

เทียม : เป็นงานสมาคม เราจะเข้าตัดสินพระครับ

เซียนทางใต้ไม่ยอมรับพระองค์นี้?

เทียม : เหตุผลเพราะว่าคนได้เห็นแค่รูป การดูรูปกับดูองค์จริงต่างกัน รูปได้ดู 2 มิติ ได้เห็นองค์จริงหรือยัง พิจารณาทั้งหมดของเหรียญหรือยัง พิจารณาตามมาตรฐานการสร้างเหรียญ ของตำหนิในพื้นเหรียญ หรือความเก่าที่ชั่งมา ความเป็นธรรมชาติ คุณได้ดูหรือยัง ถ้าดูแค่รูปแล้วตัดสิน สิ่งที่ไม่เคยเห็น ใช่ว่าจะไม่มี เหมือนที่คุณนรบดี นำเตารีดพิมพ์กลางไม่ปั๊ม เป็นทองคำ แล้วก็ของพี่ชายคุณหนุ่มที่คุณอนันต์มอบให้จอมพลสฤษดิ์ ผมถามว่าในวงการมีใครเคยได้เห็นบ้างครับ ใครเคยรู้บ้างว่ามีจริงหรือไม่มีจริง ทุกคนรู้เพราะตระกูลเขาออกมาบอก ที่คุณปานเทพแขวนที่คอ ทั้งสองคนก็สนิทกับผมครบ นั่นถึงรู้ว่ามีจริง แต่มีอย่างละองค์ ผมถึงได้บอกว่าสิ่งที่เราไม่ได้เห็น ใช่ว่าจะไม่มี เราต้องพิจารณาตามความเป็นจริง ถ้าตามมาตรฐาน สมาคมมีจุดยืน มีมาตรฐานในการตัดสินพระ เราต้องดูทั้งหมด แต่ข้อยุติจริงๆ แล้วต้องเป็นการตัดเหรียญ เมื่อตัดเหรียญชนิดเดียวกัน คนละเนื้อก็แล้วแต่ แต่ร่องรอยการตัด ต้องเหมือนกันทุกอย่าง

คุณอุ๊ กรุงสยาม ได้ยินชื่อมานาน คุณทำหนังสือโดยเฉพาะปู่ทวดเคยทำมาแล้ว หนังสือเล่มไหน?

อุ๊ : เล่มนี้ 31 ปีแล้ว

ไปศึกษาหาประวัติหลวงปู่ทวดทั้งหมด?

อุ๊ : แต่ไม่ครบนะ หนังสือตำราเราเขียนภายหลัง การที่จะได้ครบทุกอย่างนั้นไม่ครบ บางทีอะไรเกิดขึ้นมาใหม่ๆ อย่างเตารีดทองคำก็เป็นเรื่องใหม่ เซียนพระเพิ่งเคยเห็นด้วย ดังนั้นอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ใช่ว่าไม่มี หลวงปู่ทวดใครเคยเห็นบ้าง ไม่มีใครเคยเห็นว่าท่านมีตัวตนมั้ย เป็นนิยายมั้ย แต่งขึ้นมามั้ย เมคขึ้นมามั้ย อาจารย์ทิมเองก็เคยโดนกล่าวหาว่าหลอกลวงเมคขึ้นมาด้วยซ้ำ จนกระทั่งมีการให้ออกจากวัด ซึ่งใครเป็นคนพิสูจน์ว่าหลวงปู่ทวดมีจริงในประวัติศาสตร์ คุณอนันต์ก็ไม่เคยเห็น ได้แต่นิมิตฝันเห็น อาจารย์ทิมก็เข้าทรง อย่าว่าแต่เหรียญเลยที่เราไม่เคยเห็น ตัวหลวงปู่ทวดจริงๆ เราก็ไม่เคยเห็น แต่ทำไมเรายอมรับกันว่ามี ตอนที่ผมทำหนังสือเล่มนี้ ปี 2537 ก็ไปค้นหนังสือประวัติ แล้วให้ท่านอาจารย์ทรงวิทย์ แก้วศรี ซึ่งเป็นราชบัณฑิต เปรียญธรรม 7 ประโยค อาจารย์ผมเอง เขียนหนังสือประวัติหลวงปู่ทวด ปรากฏว่าอาจารย์บอกว่าเท่าที่สืบค้นแล้วเลื่อนลอยมาก ไม่มีเอกสารอ้างอิงเลยว่าท่านเป็นใคร ได้แต่เล่ากันมา พูดกันมา มีหนังสือวัดช้างไห้ที่ออกมา แต่ก็อ้างอิงไม่ได้ ท่านบอกว่าจะส่งคืนผมแล้ว จนกระทั่งท่านจุดธูป 9 ดอก บอกหลวงปู่ทวดว่า ถ้าหากหลวงปู่มีตัวตนจริง ไม่ใช่เลื่อนลอย ขอให้พบอะไรก็แล้วแต่เถอะที่จะให้เขียนต่อไปได้ อาจารย์ทรงวิทย์ ได้รับมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ทำหนังสือ 100 ปีราชกิจจานุเบกษา อาจารย์ก็ไปค้นซึ่งเยอะแยะมากมายมหาศาลมาก ปรากฏว่าหยิบออกมาเล่มนึง ในเล่มนั้นมีการชำระความและแปล ปรากฏว่ามีบทความที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ พระภิกษุโป สามีราโม เขียนตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เล่าเรื่องหมดเลยว่าพะโคะท่านเป็นใครมายังไง

คนบอกว่าหลวงปู่ทวดคือพะโคะ?

อุ๊ : หลวงปู่ทวดอยู่วัดพะโคะ ประวัติศาสตร์วัดพะโคะก็มีลูกแก้วพญางูที่ตำนานเล่าขาน ผมกำลังไล่ให้เห็นว่าสิ่งที่เราไม่เคยเชื่อ อาจารย์ทิมโดนลงโทษด้วยซ้ำ แต่วันที่ผมทำหนังสือเล่มนี้ อาจารย์ทรงวิทย์ค้นเจอฉบับนั้น เป็นความมหัศจรรย์ว่าหยิบมาจากหนังสือเป็นหมื่นๆ เล่ม ไปเจอที่กล่าวถึงสมเด็จพระราชมุนี เลยมีการค้นสืบต้นฉบับว่าอยู่ที่ไหนที่แปลออกมา ปรากฏว่าต้นฉบับคือพระตำราบรมราชูทิศ. พระกัลปนาหัวเมืองพัทลุง เป็นสมุดไทยเส้นขาว เขียนขึ้นสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ 1 ฉบับ และมีอีก 2 ฉบับที่ตรงกัน เขียนสมัยพระเพทราชา ก็เป็นเรื่องกัลปนาเหมือนกัน หมายความว่าพระมหากษัตริย์ยกที่ดินทรัพย์สินต่างๆ ถวายวัด วัดนั้นคือวัดพะโคะที่สงขลานั่นเอง เราไม่เคยเห็นหลวงปู่ทวด ทำไมเราเชื่อว่ามีตัวตนจริง จนกระทั่งอาจารย์ทิมมรณภาพเราก็ยังเชื่ออยู่อย่างนั้น ผ่านมาปี 37 38 ถึงมีหลักฐานมายืนยัน นี่เป็นเอกสารเก่าโบราณ ผมทำเรื่องถึงอธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นขอถ่ายรูปและดูตัวจริงนี้ในสมัยนั้น ปรากฏว่าพอเทียบออกมาแล้ว เฮ้ย มันเรื่องจริง ตรงกับที่คุณอนันต์ คณานุรักษ์ ตรงกับที่อาจารย์ทิมเขียนเล่าประวัติความเป็นมาของสมเด็จพระราชมุนี เพราะมันเป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมา แต่ไม่เคยมีใครเห็นของจริง ของจริงมีประวัติบันทึก สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านเป็นพระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ ทรงเสด็จไปตรวจหัวเมืองพัทลุง หัวเมืองใต้ เมื่อประมาณ 2436 ท่านไปพบที่วัดเขียนบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ก็เจอเอกสารฉบับนี้ จึงเอามาเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุ และมี่การชำระและแปลความมาโดยนักวิชาการของกรมศิลปากร ในนี้กล่าวถึงประวัติตั้งแต่เป็นบุตรของใคร บวชที่ไหน อดีตที่ผ่านมาการถ่ายรูปพระเกือบ 50 ปีที่แล้ว ทั้งประเทศมี 3-4 คน การถ่ายรูปพระในสมัยก่อนมันยากมาก เว้นแต่คนทำหนังสือ ทำตำรา ถึงมีการถ่ายรูปพระ ตอนนั้นเราลงไว้ว่ามีเนื้อทองแดงกับอัลปาก้า เพราะเราไม่เคยเห็น แต่ตอนหลังเราเคยเห็น ที่คุณบอยเคยพูดถึงว่าผมเคยซื้อเหรียญหลวงปู่ทวดที่ท่าพระจันทร์ เนื้อทองคำ ก็คือเหรียญนี้ เป็นเหรียญผ่าปาก พอเราเห็นปุ๊บมันก็มีการสร้างนี่

ตอนแรกๆ เขาคิดว่าเหรียญทองคำผ่าปากไม่มี จนมาเจอตัวจริง ก็เลยไปค้นคว้า?

อุ๊ : การดูเหรียญหลัก ดูหน้า หลัง ดูตัวตัด ต้องดูองค์ประกอบรวมทั้งหมด ตำรากฎหมายผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ เรียนตำราเดียวกันหมด ความชำนาญแต่ละคนไม่เหมือนกัน เหมือนกับเซียนพระ แต่ท้ายที่สุดต้องมีข้อยุติในการหลักการดูพระ พระแท้เกิดจากแม่พิมพ์ พระเก๊เกิดจากถอดพิมพ์แล้วแกะพิมพ์ใหม่ มีหลักในการพิจารณา ทุกคนเรียนแล้วไม่เท่ากัน การใช้หลักนั้นก็ไม่เท่ากัน ผมพูดในเชิงวิชาการ เพราะไม่เคยเจอในหนังสือ แต่ตอนหลังมาเจอเราก็ยอมรับ

เหรียญคุณบอย?

อุ๊ : ไม่ผ่าปาก เรายอมรับว่าเหรียญอัลปาก้ามีถูกมั้ย ถ้าเรายอมรับว่าเหรียญอัลปาก้ามีจริง ถ้าตัวตัดอัลปาก้าเหมือนกับตัวตัดเหรียญทอง แล้วเราบอกเหรียญทองเก๊ เหรียญอัลปาก้าเก๊หมด ถูกมั้ย เหรียญนี้ครั้งแรกผมได้เห็นในรูปก็พิจารณาเรื่องความคม เพราะผมทำหนังสือพระ เราจะมีทักษะในการดูภาพค่อนข้างมากกว่าคนอื่น ผมเห็นก็ฟันธงว่าแท้ นี่ส่วนตัวนะ ผมอาจดูผิดหรือไม่ใช่มันเป็นสิทธิ์ของผม ทุกคนมีสิทธิ์ในการดูพระ จะเก๊หรือแท้เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ตอนหลังผมก็ไปขอดูเหรียญจริง ตอนนั้นบอยเอาไปถ่ายรูปที่โทน ผมขับรถไปพอดี ก็ขอดูหน่อยองค์จริง พอเราส่ององค์จริง ด้วยความรู้ที่ผมมี ผมก็คิดว่าเหรียญนี้แท้ วิธีการดูตัวตัด ทำเก๊ได้มั้ย หน้าหลังทำเก๊ได้มั้ย ตัวตัดในกระบวนการทำเหรียญเก๊ยากมากเลยนะ ทำแทบไม่ได้เลยนะ ที่เป็นเส้นๆ ผมเรียกบาร์โค้ด หนาบ้าง บางบ้าง เหรียญนี้ในทัศนะผมถ้าเป็นข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ มันเหมือนกัน เหรียญนี้ถ้าเอาไปขยายทางนิติวิทยาศาสตร์ เราจะเห็นร่องเห็นเสี้ยน เอามาเปรียบเทียบกัน ใช้นิติวิทยาศาสตร์ได้ มันไม่ใช่ความเชื่อ มันพิสูจน์ได้

เทียม : วันก่อนที่คุณหนุ่มบอกว่าอาจมีใครไปสร้างเหรียญที่วัดช้างไห้ ทุกเหรียญในยุคที่อาจารย์ทิมเป็นเจ้าอาวาส ไม่อนุญาตให้สร้างพระในวัดช้างไห้ครับ ทุกอย่างเป็นทางกรรมการวัดกับทางอาจารย์ทิมกำหนดในการสร้างเหรียญ ฉะนั้นมันเกิดขึ้นได้ ว่าคณะกรรมการอาจจะขอทำกรณีพิเศษเพื่อครอบครัวตัวเอง สร้างเหรียญทองคำ เพิ่มเหรียญทองคำ ถ้าสร้างน้อยเราอาจไม่ได้เห็น เพราะเขาอาจเก็บเอาไว้ ต้องมาพิสูจน์ครับ

กลัวมั้ยถ้าวิเคราะห์ออกมา ถ้าเก๊ปุ๊บผิดใจกับบอย หรือแท้ปุ๊บผิดใจกับโอ๊ต?

ชัยนฤทธิ์ : ต้องให้มีที่ยืนในสังคม

คนใดคนหนึ่งอาจไม่ได้มองหน้าพี่?

ชัยนฤทธิ์ : ปัญหาคือตรงนั้นแหละ (หัวเราะ) สองคนก็ต้องมีที่ยืนในสังคมด้วยถ้าฟันธงไปแล้ว

นี่ประธานโต๊ะหลวงปู่ทวดเลยนะ เคยมีมั้ยคนเอาพระเก๊มาแล้วบอกว่าแท้ ใต้โต๊ะหน่อย ให้ตัดสินชนะ?

ชัยนฤทธิ์ : ก็มีขอมาบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกรรมการมีหลายท่าน เยอะแยะไป ก็ยากครับ

มีล็อบบี้กรรมการมั้ย?

พยัพ : ไม่มีหรอกครับ ทุกคนมีชื่อเสียง กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่ขายชื่อตัวเองหรอก ไม่งั้นคนก็ไม่ยอมรับกรรมการ แต่ละคนก็มีองค์ความรู้ มีความสามารถ มีความเป็นธรรมให้สังคม คนไม่จริงก็เอาออกไปจากสมาคม อยู่ไม่ได้หรอกครับ

อันนี้ไม่ผ่าปาก เนื้ออัลปาก้ามีแน่นอน แต่อันนี้เทียบขนาดองค์ เทียบด้านข้างได้หมด มีองค์จริงเนื้ออัลปาก้ามาด้วย?

ชัยนฤทธิ์ : ด้านหน้ามีความคมชัดลึก ด้านดวงตา หรือนัยน์ตาก็ลึกคม พื้นเหรียญรายละเอียดเส้นขนแมววิ่งมาก พื้นเหรียญมันบ่งบอกถึงการปั๊ม ผิวโลหะตึง สรุปได้คร่าวๆ ว่า เหรียญนี้มาจากการปั๊ม เพราะโลหะที่หลอมละลาย เวลาโดนความร้อนจะขยายตัว พอเย็นตัวลงมา จะยุบตัว จะเกิดตามด หลุมเม็ดผดต่างๆ ทำให้พื้นไม่ตึง มีเม็ดขี้กราก หลายๆ อย่าง เราดูออกว่าเหรียญนี้ไม่ได้มาจากการปั๊ม พอโลหะเย็นตัวลง แต่เหรียญนี้วิเคราะห์หน้าเหรียญมาจากการปั๊ม

วิเคราะห์ด้านหลัง?

ชัยนฤทธิ์ : สาเหตุที่เป็นประเด็นคือด้านหลังดูแล้วตื้นกว่า ไม่คม แต่ถ้าดูจริงๆ มีความคมอยู่ ตามตัวยันต์เส้นต่างๆ มีความคม เราวิเคราะห์วินิจฉัยว่าเกิดจากรอยปั๊ม ตามพื้นเหรียญมีการแต่ง เลยเป็นจุดประเด็นหลายๆ อย่างที่มีปัญหากัน

พี่ชัยนฤทธิ์เป็นบุคคลที่บอยและโอ๊ตบอกว่าให้ดูได้เลย เหมือนเชื่อถือพี่คนนี้ ก็เลยลองเชิญแกมาดู แกเปิดโต๊ะตัดสินหลวงปู่ทวดเลย เป็นประธานโต๊ะตัดสินหลวงปู่ทวด?

ชัยนฤทธิ์ : เรามาดูขอบข้าง ข้างตัวตัด เป็นร่องรอยการรองตัวตัด อันนี้ก็สำคัญ อันนี้ก็มีร่องรอยการวางบล็อกด้านหลัง เวลาตัดเหรียญแล้วจะมีขอบให้เห็นว่ามีรอยกระแทก

ห่วงหลักโอ๊ตบอกว่ามีเหมือนบ่าขึ้นมา เกิดจากร่องรอยการถอดพิมพ์แล้วไปปั๊มเป็นพระใหม่?

ชัยนฤทธิ์ : ก็มีประเด็นด้านหลังที่เถียงกัน ส่วนการตัดขอบข้าง มีทั้งชัดและไม่ชัด เพราะเหรียญนี้บาง ตรงห่วงก็เป็นจุดที่วินิจฉัยกันได้ ซึ่งมองยากเพราะเหรียญบางมาก ก็เลยเกิดกรณีถกเถียงเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดี (หัวเราะ) เป็นมุมมองของแต่ละท่าน

เหรียญนี้แสดงว่าเคยผ่านตาพี่ชัยนฤทธิ์มาก่อนแล้ว เพราะมีคนเอามาเสนอ?

ชัยนฤทธิ์ : ผมคนที่สองที่สามมั้ง ราคาก็ไม่ได้เสีย เพราะตอนนั้นแพงมาก ไม่ได้ต่อไม่ได้อะไร ตอนนั้นก็ใกล้ๆ 10 ล้าน ฟังแล้วก็ไม่ได้จะลดจะอะไร เราก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ให้อาจารย์เทียมดูต่อ เขาเชี่ยวชาญมาก

พยัพ : ดีนะให้ความรู้คนเล่นพระ พวกเราจะไม่เข้าข้างคนหนึ่งคนใด หลวงปู่ทวด ไม่ได้เป็นคนเดียว เป็นทั่วประเทศ

เทียม : คนดูได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะภาคไหนๆ

พยัพ : ถ้าหลวงปู่ทวดตัดสินกันไม่ได้ ดูกันไม่ได้ แล้วพระอื่นจะเล่นกันยังไง

อุ๊ : เรื่องการดูพระ มีเก๊กับแท้ คนเราชำนาญไม่เหมือนกัน ต่อให้พระแท้ คนดูเก๊ก็มี หรือพระเก๊คนดูแท้ก็มี เป็นเรื่องปกติของวงการพระ ท้ายที่สุดอยู่ที่องค์ความรู้ การศึกษา แล้วเราจะตัดสินอย่างไรแค่นั้นเอง

อะไรก็ตามแต่ ต้องเห็นองค์จริงเสียก่อน เห็นจากรูปบางทีบอกไม่ได้ มันต้องเห็นองค์จริงๆ ถึงจะเข้าใจว่าทำไมคนนี้คิดแบบนี้?

อุ๊ : การถ่ายรูปเป็นเรื่องแสงเงาด้วย เหรียญนี้เท่าที่สังเกต เหรียญเลื่อนมี 3 พิมพ์ 3 แบบ หนึ่งคือพิมพ์นิยมผ่าปาก แบบที่สองจะตื้นกว่าแบบแรกหน่อยนึง ผ่าปากเหมือนกัน ชุบนิเคิ้ล สามไม่ผ่าปาก ด้านหลังเป็นแบบนี้ บางคนเอาด้านหลังแบบที่สามไปเปรียบกับแบบที่หนึ่ง ซึ่งเปรียบกันไม่ได้ หรือเอาด้านหน้าความลึกของแบบที่สามไปเปรียบแบบที่หนึ่งก็ไม่ได้ เพราะคนละบล็อกแม่พิมพ์กัน เหรียญทองคำเหรียญนี้ ถามว่าทำไมตื้น มันอยู่ที่ปริมาตรของทอง

เทียบรอยตัดเหรียญอัลปาก้ากับเหรียญทอง เชฟเท่ากันมั้ย?

พยัพ : ในความรู้สึกของผม ยังไงก็ต้องบางกว่า ขนาดของเหรียญเท่ากันเลยครับ

เอาอัลปาก้าองค์จริงมาเทียบเลย เท่ามั้ย?

ป๋าต้อย : (พยักหน้า)

เท่านะ นี่คือปรมาจารย์ดูพระนะ อยู่ในแวดวงดูพระมาหลายสิบปี?

ป๋าต้อย : จริงๆ หลวงปู่ทวดเหรียญนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร ที่ยากกว่านี้ตัดสินมามีเยอะแยะ เรายังสามารถแกะได้

พยัพ : ทำไมเหรียญข้างกระบอกเหรียญข้างเลื่อย ไม่มีตัวตัด ยังตัดสินกันได้ ยิ่งมีตัวตัดก็จบ ง่ายเลย

ป๋าต้อย : ดูแล้วเป็นเหรียญปั๊ม รอยตัดอันเดียวกัน ความคมชัดมี ลักษณะสีทองเก่าก็หนีไม่พ้น อันนี้เส้นรองวงก็เท่ากัน

อุ๊ : แสดงว่ามาจากบล็อกเดียวกัน

พยัพ : เราไม่เข้าใครออกใคร เราให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย มันเป็นครูชนิดนึงในวงการพระ อะไรก็ตามแต่อย่าด่วนตัดสินใจ แล้วมาทะเลาะกันมันไม่เกิดประโยชน์

ป๋าต้อย : พระต้องรู้ว่าเหรียญดูตรงไหน ตัวตัดสำคัญ อย่างเหรียญต้องเหมือนกันทุกระเบียด

อุ๊ : มีจุดที่บอกว่าเอ๊ะ ทำไมขอบมีรอยมน รอยอะไร จริงๆ เหรียญทองคำเวลาเขาปั๊มแล้วจะมีการแทงเก็บตะไบ เหรียญเลื่อนที่มีผ่าปาก เหรียญหูห่วงเชื่อม ผมเคยได้มานะ ขอบช่างเก็บซะไม่เห็นรอยตัดเลย ผมว่าธรรมชาติความแปรเปลี่ยนอะไรมันมี เหรียญนี้ดูจากกนกด้านขวา ตัวนี้ถ้าเหรียญทองคำนี้จะถอดมา ต้องถอดจากเหรียญอัลปาก้า เหรียญอัลปาก้าชุบนิเคิ้ล ความคมของเหรียญจะดร็อปไปชั้นนึงแล้ว ถ้าเราถอดจากตรงนี้ออกมาอีก ก็จะยิ่งไปกันใหญ่เลย เส้นที่อยู่ลึกที่สุดอยู่ที่ผิวทั้งหลายแหล่มันจะไม่คม นี่คือจุดสำคัญในการผลิตเหรียญ พระมีสองอย่าง เก๊นะ แกะพิมพ์ใหม่ก็เพี้ยนไปเลยกับการถอดพิมพ์ เหรียญนี้ถ้าจะเก๊ เก๊จากการถอดพิมพ์

ห่วงหลังข้างบนฝั่งโอ๊ตบอกมีบ่าขึ้นมา เหมือนถอดพิมพ์ออกมาเอาไปทำใหม่?

พยัพ : ความรู้สึกผม เหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญถอด ถ้าถอดพิมพ์เหรียญเส้นจะเบลอ นี่คมชัดลึกหมด ขนแมวยังอยู่ เส้นสายครบหมด ผมไม่เก่งเหรียญนะ แต่ดูจากความรู้สึก เหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญถอด

ป๋าต้อย : ไม่ถอด

อุ๊ : ไม่ถอด ที่เราเห็นขอบบนๆ เหมือนถอดจากหูเหรียญ มีบ่าขึ้นมา ถ้าดูจากรูปจะคิดว่าเหมือนบ่า แต่พอส่องจริงๆ เวลาปั๊มจะมีครีบทองคำอยู่ เกิดการตะไบ ใช้ตัวเก็บทองเก็บเหรียญอีกที อันนี้เห็นชัดเจน มีรอยแทงย้อนกลับเหมือนเนื้อพับขึ้นมา เลยเห็นเหมือนเป็นขอบเป็นบ่า แต่จริงๆ ไม่ใช่ เป็นกระบวนการผลิต การเก็บมากกว่า ส่วนที่บอกว่าทำไมความคมชัดไม่ได้ ปริมาตรของทองที่ใส่ เวลาปั๊มเหรียญส่วนที่ลึกที่สุดของเหรียญคือจมูก ตัวปลายจมูกอาจารย์ทิม ดูได้เลย หรือหน้าผากไม่ลึกเพราะเนื้อทองคำมีปริมาตรน้อยมาก จนมันวิ่งไปไม่เต็มพิมพ์ มันก็ทำให้ความคมชัดต่างๆ ที่จะร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเหรียญหนาไม่ได้ เพราะเนื้อวิ่งไปไม่ถึง ผมเองเคยทำเหรียญมาเยอะ เข้าใจกระบวนการนี้อยู่ พอเทียบกับอะไรต่างๆ ผมว่ามันมีเหตุมีผลของมันแน่นอน

ถ้าผมเป็นบอย จะเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แล้วให้ไปยืนดู?

อุ๊ : มันมีรอยตะไบ แต่ง แล้วแทงกลับ เห็นชัดเจน เกิดจากระบวนการช่าง ถ่ายรูปแสงเงาเท่านั้นเอง

พี่มองยังไง?

ขัยนฤทธิ์ : ผมว่าตัวตัดมันหนีไม่พ้น มันก็ตรง ต้องว่าไปตามนั้น เหมือนอัลปาก้าที่เคยพูดไว้

พูดได้มั้ยว่าแท้หรือเก๊?

ชัยนฤทธิ์ : ในหน้าที่วิเคราะห์ผม เปอร์เซ็นต์แท้สูง

ไม่อยากพูดว่าแท้ เอาตรงๆ เกรงใจโอ๊ตหรือยังไง?

ชัยนฤทธิ์ : (หัวเราะ) ให้อาจารย์เทียมพูดต่อ

เทียม : จากประสบการณ์ผม ถอดไม่ได้หรอกครับ ตรงนี้แท้ครับ เส้นขนแมวในพื้นเหรียญ ทองคำเป็นโลหะที่อ่อน เวลาปั๊มออกมา ความคมชัดของเขาตามพื้นเหรียญในซอกลึกๆ จะเห็นความคมชัด เส้นขนแมวเล็กๆ ที่บนพื้นเหรียญ ถ้ายิ่งถอดเส้นยิ่งโต แล้วเอาแบบมาจากไหนที่จะถอดทองคำ ต้องเอาแบบอัลปาก้ามา อัลปาก้ายิ่งไม่ค่อยคมชัดอยู่แล้วเพราะว่ามีนิเคิ้ลเงินไปทับอยู่ คุณยิ่งถอดเส้นยิ่งไม่ชัด ยิ่งโตขึ้น แต่นี่เส้นเขาครบกริบเลยนะครับ ถ้าผมฟันธง ผมก็ฟันธงว่าพระองค์นี้แท้ครับ

ชัยนฤทธิ์ : ก็เปอร์เซ็นต์สูง ก็แท้แหละครับ

เหรียญนี้ในฐานะเป็นกรรมการโต๊ะหลวงปู่ทวด ออกบัตรได้มั้ย?

ชัยนฤทธิ์ : ออกบัตรได้อยู่แล้วเพราะตัวตัดเหมือนอะไรเหมือน

พยัพ : ส่วนตัวผม ผมมองในมุมมองว่าจริงๆ แล้วมันหนีกันไม่ได้ เก๊คือเก๊ แท้คือแท้ ต้องฟันให้ขาดไปเลย ผมพูดในความรู้สึกเป็นกลาง ผมศรัทธาหลวงปู่ทวด ผมเคยซื้อเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ผ่าปากทองคำเหรียญเดียวเท่านั้น จากคุณหมึก ท่าพระจันทร์ ซื้อ 7 ล้าน อันนี้ถ้าส่วนตัว ไม่ได้เข้าข้างใคร ถ้าผมเท็จให้จงฉิxหาย ไม่ใช่เพื่อตัดปัญหา หนักใจขายผม ผมซื้อ 6 ล้าน

บอยได้กำไรล้านนึงแล้ว?

พยัพ : ขายมั้ย ผมซื้อจริงนะ ไม่ใช่ว่าจะเข้าข้างคนหนึ่งคนใด ผมดูแท้ผมซื้อ กล้าขายผมมั้ยล่ะ ผมให้กำไรล้านนึง ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมดูเหรียญนี้มีความคมชัดลึก มันถอดไม่ได้ ถ้าเหรียญนี้ถอดได้ เหรียญอัลปาก้าเก๊ทั้งประเทศครับ

ป๋าต้อย : จากประสบการณ์ตัดสินพระทั้งประเทศ เหรียญส่วนใหญ่ดูตัวตัด ดูให้ขาด มันหนีไม่ออก เหรียญปั๊มเป็นบล็อกเดียวกัน ทุกอย่างก็อยู่ในตัว เหรียญตัดสินไม่ยากเลย จริงๆ ไม่ต้องถึงพวกเรา กรรมการโต๊ะหลวงปู่ทวดธรรมดาก็ตัดสินได้ พอดูว่าไม่ถอดมาเป็นเหรียญปั๊มมันก็จบ ผมคิดว่าเหรียญนี้ถ้าให้ผมมีตัวเทียบแบบนี้ ผมสามารถชี้ขาดได้เลย ต้องมีตัวเทียบ

เรามีองค์แท้มาเทียบ มีทั้งผ่าปากและไม่ผ่าปาก เป็นอัลปาก้า พอเทียบแล้วเป็นยังไง?

ป๋าต้อย : มันหนีไม่ออก ผมไม่เข้าข้างใครนะ ทั้งสองคนก็รู้จักรักใคร่กันดี คุณบอยก็เล่นเหรียญมานาน ก็มีความชัดเจนเรื่องเหรียญ ผมคิดว่าคงไม่ควักเงินง่ายหรอกถ้าไม่มั่นใจ อีกอย่างคนซื้อต่อจากเขาไป คุณเด่น ก็ไม่ธรรมดา เล่นเหรียญเก่ง ถ้าเขากล้าเช่าแสดงว่าเขาต้องดูมั่นใจ เงินมันเป็นล้าน ไม่ใช่น้อยๆ นะ เขาเช่าเพราะเป็นพระ ไม่ใช่เป็นบอย ต่อให้เหรียญเป็นของนายกสมาคมด้วย มันก็ไม่ใช่ พวกนี้เขาดูพระ มันจบที่พระ ไม่ได้จบที่คน หรือเรื่องเล่า ผมดูส่วนตัวถ้าเทียบแล้ว ยังไงก็หนีไม่พ้น มันต้องแท้ พูดได้เต็มปากเหรียญนี้ต่อไปจะเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ เขาคงไม่ขายใคร (หัวเราะ) โดยเฉพาะคนเช่าต่อจากบอยไปเนี่ย

พยัพ : ผมฟังที่น้องพูดทั้งสองฝ่ายถกเถียงกัน บอยบอกถ้ามีมาขายเขาเหรียญละ 5 ล้าน เขารับซื้อ เหรียญเก๊ไม่มีเหรียญเดียวหรอก บอยกล้ารับซื้อเหรียญละ 5 ล้าน เชื่อว่าเขาไม่เปลี่ยนคำพูด มีมั้ยไปขายเขา เหรียญเก๊ไม่มีอันเดียวหรอก ผมก็ไม่ได้เชื่อบอย วันนี้ผมได้มาดูเหรียญเนี่ย

อุ๊มองไง?

อุ๊ : ผมไม่รู้จักคุณโอ๊ตโดยส่วนตัว บอยรู้จัก แต่โดยนิสัย ทุกคนจะรู้ว่าใครก็สั่งผมไม่ได้ ผมดูพระเก๊แท้เป็นเรื่องของผม ผมดูแบบผม ใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็เรื่องของผม แต่ถ้ามาดูอันนี้ ผมให้ความสำคัญกับตัวเหรียญมากกว่า ผมมองว่าแท้ เพราะเห็นจุดต่างๆ เส้นเสี้ยนตรงกนก ตรงนั้นสำคัญมาก เป็นเทคนิคการทำเหรียญ ส่วนตัวตัดก็อีกส่วนนึง ความหนาบางเหตุผลของมันก็อีกส่วนนึง ถ้าทุกอย่างอธิบายได้ เหรียญนั้นก็ต้องแท้ เพราะเราพูดถึงตัววัตถุ ประวัติผมไม่ฟัง ที่มาที่ไป ตระกูลคณานุรักษ์ไม่เกี่ยว ไม่ได้สร้าง ประวัติเขาก็ไม่ได้สร้างอยู่แล้วเรื่องเหรียญ

หนังสือของพี่อุ๊มีจุดน่าสนใจอยู่หน้านึง เป็นหน้าที่ 55 ในนี้จะเป็นเหมือนจดหมายทางคุณอนันต์ คณานุรักษ์ ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในบันทึกที่วันนั้นเอามาให้ดู อันนี้เป็นจดหมายอีกฉบับแยกออกมาแล้วส่งหาบุคคลใดบุคคลนึง ส่งให้ใคร?

อุ๊ : คุณรวิ สิทธิประสาท ซึ่งเป็นคนสงขลา คุณรวิก็สนใจพระเครื่อง คนสงขลาเก่าๆ จะรู้จักคุณรวิ เขามีจดหมายไปสอบถามคุณอนันต์เรื่องพระเนื้อว่านเรื่องพระที่จะเช่า คุณอนันต์ก็ตอบจดหมายมา

ข้อที่สี่ น่าสนใจ เหรียญเสมาผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่สนใจ นี่คือลายมือคุณอนันต์เลยนะ เป็นจดหมายที่คุณอนันต์ส่งให้คุณรวิ แสดงว่าทางคุณอนันต์ไม่ได้สนใจเรื่องเหรียญเสมา?

อุ๊ : จดหมายฉบับนี้ ลงวันที่ 2 พ.ค. 2505 นัยยะคืออะไรก่อน คุณอนันต์สร้างเนื้อว่านปี 97 วัดช้างไห้สร้างเหรียญหัวโต ปี 5499 2501 มีเหรียญรุ่นสองปี 2502 รุ่นสาม รุ่นสี่ เหรียญเม็ดแตง เหรียญเสมา เหรียญรูปไข่ เหรียญวัดช้างไห้สร้างเยอะมาก แต่วันนี้ยืนยันชัดเจนแล้วว่าคุณอนันต์ไม่ได้สนใจเรื่องเหรียญเลย ท่านไม่ได้สร้างเหรียญและไม่สนใจ นี่เป็นทัศนะส่วนตัวของท่าน ทีนี้เหรียญปี 08 คุณอนันต์สร้างกับพระองค์เจ้าเฉลิมพล หลังเตารีดปี 05 แล้วมาปี 2508 ต้นปี สร้างรูปหล่อบัวรอบ ซึ่งเอาเงินไปสร้างโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ปัตตานี 5 พันองค์ พอหลังจากจบอันนั้นแล้ว คุณอนันต์ก็ไม่ได้สร้างอีก อาจารย์ทิมได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ วันที่ 5 ธ.ค. 2508 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แสดงว่าเหรียญนี้จะสร้างก็ปลาย 08 ปลายปี ธ.ค.สร้างไม่มีทางทันหรอกครับ ฉะนั้นเหรียญที่เราเล่นกัน 08 ในวาระ 08 แต่สร้างปี 09

ง่ายๆ เหรียญเลื่อน คือธ.ค. 08 แต่เหรียญออก 09 แต่เขาใช้ปีเลื่อนมาตั้งเป็นชื่อ?

อุ๊ : คุณอนันต์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างเหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์แน่นอน จากจริตคุณอนันต์ ถ้าคุณอนันต์ยังมีชีวิตอยู่ คุณอนันต์สิ้นปี 2512 ถ้าหากท่านเกี่ยวข้องตรงนี้ โดยคุณอนันต์ท่านเป็นนักเขียน นักบันทึก การเลื่อนสมณศักดิ์เป็นงานใหญ่พระภิกษุสงฆ์รูปนึงเลย ฉะนั้นคุณอนันต์ต้องมีการบันทึกแน่นอน แต่ในเมื่อไม่มี วัดช้างไห้มีการสร้างพระ 3 ลักษณะ หนึ่งวัดสร้าง สองวัดสร้างร่วมกับประธานหรือใครก็แล้วแต่ อย่างพระองค์เจ้าเฉลิมพล มาสร้างหลังเตารีด แล้วก็บุคคลภายนอกที่มาขอสร้างพระที่วัดช้างไห้ ไม่เกี่ยวกับวัดเลย ยกตัวอย่างปี 2505 ท่านสวัสดิ์ โชติพาณิชย์อดีตประธานศาลฎีกา ท่านสร้างรูปเหมือนเบตง ปี 05 มาปลุกเสกวัดช้างไห้ แต่ไปออกทำบุญที่วัดพุทธาธิวาส ยะลา ต้องดูว่าคุณอนันต์เกี่ยวข้องเรื่องใดก่อน บางทีในความเห็นบอกว่าไม่มีบันทึกคุณอนันต์ เหรียญนี้ไม่มีการสร้าง ไม่ใช่นะครับ เหรียญนี้สร้างโดยใคร ไม่ใช่คุณอนันต์ข้อที่หนึ่ง สร้างโดยวัดช้างไห้ ทำไมไม่มีบันทึก เหรียญรุ่นสองรุ่นสามก็ไม่มีบันทึก เพราะบล็อกเยอะมาก

คุณป้อม ทายาท และได้คุยกับตระกูลคณานุรักษ์บางท่าน ท่านก็ยืนยันว่าเหรียญเลื่อนเป็นเหรียญที่ทางวัดเป็นคนสร้างเอง?

อุ๊ : ใช่ครับและพ้องกับบันทึกนี้

หลายคนที่กำลังถามว่าใครสร้าง ไม่จำเป็น วัดสร้างพระเยอะแยะเองนะ?

อุ๊ : วัดเขาไม่ได้สร้างให้เซียนเล่นนะ เขาสร้างให้ชาวบ้านมาทำบุญแล้วแจกจ่าย พวกเรามาเล่นกันตามหลัง แล้วมาบัญญํติว่าไอ้นี่พิมพ์นิยม ไอ้นี่สร้างก่อน เกิดไม่ทันกันเลย

เทียม : ผมทันครับ ผมไปเช่าที่วัดเองด้วยนะครับ รุ่นเหรียญเลื่อน ผมอายุ 10 กว่าขวบ ผมได้แต๊ะเอียที่บ้านตรุษจีนทุกปีจะไปไหว้หลวงปู่ทวด เพราะพ่อสนิทกับอาจารย์ทิม ผมไปตั้งแต่เด็กๆ ผมชอบพระตั้งแต่เด็ก ผมเอาแต๊ะเอียเช่าพระเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ผมไปปี 08 09 ก็ไปเช่า

ยืนยันว่าวัดเป็นคนออก?

อุ๊ : ใช่ครับ

เซียนสายใต้ไม่เห็นด้วย อาจารย์เทียม เซียนสายใต้เหมือนกัน มองยังไง?

เทียม : เขาไม่ได้เห็นองค์จริง ถ้าคุณเห็นองค์จริงแล้วมาวิพากษ์วิจารณ์จะดีกว่า เห็นแค่รูปภาพจะเบลอ แต่ถ้ามาเห็นความลึก รอยตัด เปรียบเทียบคุณก็จะรู้ว่าจริงหรือไม่จริง ถ้าดูแค่รูปใช้ไม่ได้ คุณมีสิทธิ์คิดว่าอาจจะไม่มี เพราะบันทึกไม่มี แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอกครับ ทางวัดสร้าง แล้วการสร้างก็น้อยทำให้เราไม่ค่อยได้เห็น

อุ๊ : ถ้าเซียนใต้เล่นหลวงปู่ทวดเก่งมาก คนกรุงเทพฯ วัดระฆังแชมป์เลย เก่งทุกคน ผมว่ามันอยู่ที่องค์ความรู้มากกว่า

ป๋าต้อย : เปรียบเทียบว่าคนภาคนั้นต้องดูแม่น มันไม่ใช่ มันเป็นการเปรียบเปรย

อุ๊ : คนที่ไหนก็ตามถ้าศึกษาเรียนรู้ สามารถเก่งในเรื่องนั้นๆ ได้

คุณแพะ?

อุ๊ : ผมรู้จักโดยส่วนตัว รู้จักมานาน เคยคุยกับพี่แพะเรื่องหลวงปู่ทวด พี่แพะเก่ง มีความรู้ แต่อาจไม่ตรงกันได้ เมื่อก่อนพี่แพะเองบางอย่างก็ไม่ได้ยอมรับ แต่เวลาผ่านไปพี่แพะยอมรับว่ามี ความรู้ถกกันได้ ไม่มีปัญหา ความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่วันหน้าถ้ามีหลักฐานเข้ามา ทุกคนยอมรับ ก็เหมือนกัน ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับหลักฐาน

ห้าท่านยืนยันตรงกันว่าแท้ ป๋าเช่าเลย 6 ล้าน?

พยัพ : ผมดูว่าแท้ ขายผมมั้ยล่ะ ผมไม่ได้เช่าคนนะครับ

เทียม : เส้นทองคำจะคม จะเห็นชัดเจน

อุ๊ : ด้วยปริมาตรทองมันบาง ถ้าทองไม่มากพอดันไม่เต็มพิมพ์ มันจะดร็อปลงมาหน่อย คุณโอ๊ตดูเก๊ก็สิทธิ์คุณโอ๊ตนะ ไม่ได้ผิดนะ เหมือนผมดูแท้ก็เป็นเรื่องของผม แต่ท้ายสุดใครจ่ายตังค์ ป๋าจ่ายก็รับผิดชอบสิ ตังค์ป๋า แต่ถ้าขายผม 6-7 ล้าน ผมไม่มีเงินซื้อ (หัวเราะ)

พยัพ : มองต่างมุมได้หมด

โทรหาโอ๊ต แต่โอ๊ตยังไม่สะดวก เขามีความเชื่อว่าเก๊อยู่?

อุ๊ : ไม่เป็นไร ก็สิทธิ์ของโอ๊ต สำหรับผมเฉยๆ เหตุแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิด พระสมเด็จองค์นึงสมัยก่อนงานประกวดฐานเศรษฐกิจ จะเป็นจะตาย เซียนใหญ่ต้องตัดสินกันใหม่

ป๋าต้อย : ผมเป็นคนเช่าไปเอง มองต่างมุมกัน ผมดูแท้ เช่า มีคนไปพูดว่าผมเช่าพระไม่แท้ กรรมการส่วนใหญ่ก็ตัดสินว่าแท้ เขาบอกว่ากรรมการตัดสินไม่ถูก ก็ต้องรีเช็กใหม่ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต หาว่ากรรมการมาเข้าข้าง แล้วเขาจะมาเข้าข้างผมทำไม

พยัพ : การดูแท้ แล้วแต่ความคิด สายตา ความรู้สึกของแต่ละคน

อุ๊ : เหตุการณ์นี้ 25 ปีต้องมี เป็นเรื่องราวใหญ่โต รุ่นใหญ่หมดเลย

พยัพ : คนเล่นพระต้องยอมรับความเป็นจริง นอกจากคนที่ไม่เป็น พระแท้เหมือนทองคำแท้ เพชรแท้ ขายที่ไหนก็ได้หมด

โอ๊ตไม่สะดวกเข้าสาย?

อุ๊ : ไม่เป็นไร โอ๊ตก็ไม่ได้ผิดอะไร

การดูพระแล้วแต่ตาคนจริงๆ สุดท้ายอยู่ที่ตัวบุคคลที่ซื้อไปบูชา เขาอุ่นใจ สบายใจก็เป็นสิทธิ์ของเขา ป๋าพร้อมซื้อ 6 ล้าน ขณะเดียวกันโอ๊ตไม่ได้ผิดอะไร เพราะตัวโอ๊ตมองว่าไม่แท้ก็เป็นสิทธิ์ของเขา?

อุ๊ : ใครเชื่อโอ๊ตก็เล่นกับโอ๊ต ใครเชื่อบอยก็เล่นกับบอย เท่านั้นเอง ใครเชื่อสมาคมก็เอามาตรฐานสมาคม ผมว่าสมาคมเป็นที่พึ่งและเชื่อได้ของนักเล่นพระ ให้วันนี้ไปอีก 50 ปี เก๊แท้ยังเถียงกันไม่จบเลย

เฮียกุ่ยก็มีอีกมุมนึง อาจารย์หนึ่งบอกว่าพระปีก่อน 2500 ไม่มีหรอกเหรียญปั๊ม?

อุ๊ : โห เขารู้ได้ไง เหรียญพระแก้วมรกต ปี 2475 เหรียญวัดบวรฯ เหรียญร.5 เหรียญปั๊มครับ ถ้าบอกว่าไม่มีเหรียญปั๊มเป็นความเชื่อที่ผิด เป็นการดูพระผิดทางเลย พระเป็นศาสตร์ความรู้นะ ไม่ใช่ความรู้สึกนะ

มีคนบอกว่าวัดมีเงินที่ไหนสร้างพระทองคำ?

อุ๊ : วัดช้างให้นะ (หัวเราะ) คุณหนุ่มว่าไง คุณหนุ่มเป็นคนกลาง ด้วยเหตุและผล

เอาเฉพาะคอมเมนต์นี้นะ เลอะเทอะ ขอโทษด้วยนะผมมองแบบนั้น เข้าใจว่าความคิดเห็นต่าง แต่ต้องมีเหตุและผล ถ้าต่างแบบนี้มันไม่ใช่ ผมขอเข้าสายทั้งบอยและโอ๊ต แต่โอ๊ตไม่สะดวก บอยไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ถ้าเข้าต้องเข้าเหมือนๆ กัน เดี๋ยวหาว่าลำเอียงอีก?

พยัพ : ผมในนามสมาคม ผมไม่ได้มาเข้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เราอยู่ตรงกลาง ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก แต่ความคิดแตกต่างกัน ตรงนี้เราไม่มีการลำเอียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด สองคนผมรักทั้งคู่ทั้งโอ๊ตทั้งบอย ไม่ได้มาเอียงใครทั้งนั้น ท่านผู้ชมต้องเข้าใจตรงนี้ด้วยนะครับ ด้วยเกียรติของสมาคม

กังวลใจมั้ย อาจมีหลายคนมองว่าเราลำเอียง พระเก๊บอกแท้ มันมีไปเรื่อย?

พยัพ : อย่าว่าแต่เรื่องพระ ทุกเรื่องดีกว่า

ป๋าต้อย : ห้ามความคิดใครไม่ได้หรอกครับ

เรื่องสองคนนี้ทำให้วงการพระสั่นสะเทือนเหมือนกัน?

พยัพ : มันหนีความจริงไม่ได้ครับ

ป๋าต้อย : จริงๆ ไม่ยากเลย แต่แรงในโซเชียลเพราะต่างคนต่างก็มีกำลัง ทำให้คนภายนอกไม่รู้ไขว้เขวกันไป อยากทำให้รู้ว่าเป็นยังไงแน่ ถามว่าดูยุ่งยากมั้ย ไม่ยุ่งยากหรอก ตัดสินแป๊บเดียวก็รู้แล้ว

ทั้ง 4 ท่านเชื่อว่าโอ๊ตก็รู้จัก โอ๊ตน่าจะให้ความเคารพทั้ง 4 ท่าน โดยเฉพาะอ.ชัยนฤทธิ์ โอ๊ตบอกไว้ใจก็อยากให้ดู หรือแม้แต่พี่เทียม ป๋าพยัพ ป๋าต้อย ผมว่ามีอะไรก็ไปคุยกัน หลังบ้านไปเคลียร์กันก็ได้?

พยัพ : ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรกัน

อุ๊ : ผมเห็นวิวาทะอย่างนี้มาตลอด สุดท้ายก็แยกย้ายกันไปทำมาหากิน วันนี้มันมีโซเชียล ที่ยกเคสมา 25 ปีที่แล้วที่ปะทะกัน รุ่นใหญ่เบญจภาคีต้องเปิดโต๊ะเคลียร์กัน

พยัพ : ถ้าเรื่องเหรียญยังตัดสินกันไม่ได้ แล้วพระอื่นจะเล่นกันได้มั้ย ต้องให้จบกันตรงนี้ครับ

คุณมองว่าจะเก๊ก็สิทธิ์ของคุณ คนมุมนึงมองแท้ก็สิทธิ์ของเขา บนโต๊ะนี้มองว่าแท้ แต่บางเรื่องคุณต้องเห็นกับตาตัวเองก่อน?

พยัพ : อย่างวันนั้นที่คุณหนุ่มโทรคุยกับผม ผมยังไม่เห็นเหรียญ แต่ผมบอกว่าทุกอย่างต้องจบที่ตัวตัด อีกสองวันผมเข้าไปสมาคมให้น้องเด่นเอาเหรียญให้ผมดู ผมไม่ได้พูดว่าเก๊แท้เพราะพูดไปจะเหมือนดาบสองคมทั้งสองฝ่าย แต่วันนี้ผมดูดี ผมชอบในความรู้สึกของผม

คนส่งมาเต็มเลย พระสมเด็จเฮียเหลาอยู่ที่ไหน?

พยัพ : ต้องไปถามเฮียเหลา (หัวเราะ)

นี่คือปรมาจารย์ที่ให้มาดู แต่ถ้าดูแล้วยังบอกว่ากลุ่มนี้พวกเดียวกันอีก?

อุ๊ : ก็จนปัญญา

พยัพ : เลิกเลยครับ

บางทีแฟนคลับโอ๊ตอาจมองว่าพวกนี้รวมหัวกันโง้นงี้ จริงๆ ไม่ใช่นะ ต้องใจเย็นๆ ก่อน ผมไปเชิญมาเอง หลายคนส่งข้อความมาเยอะอยากรู้ว่าตกลงเป็นยังไง?

อุ๊ : มอบข้อมูลให้คุณหนุ่มด้วย ในนี้มีข้อมูลหลายอย่างที่คุณหนุ่มอาจไม่เคยเห็น และข้อถกเถียงหลายอย่าง

ทำโหนกระแสมา 8-9 ปี ผมชอบมากที่ทำเกี่ยวกับพระเพราะตรงกับที่บ้านผม พี่ชายผม พ่อผมเล่นพระ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยากทำรายการเกี่ยวกับพระเครื่อง เร็วๆ นี้ผมคิดว่าจะทำ ผมจะทำเอง ผมอยากทำ แต่อาจขอเชิญหลายๆ คนมาเป็นที่ปรึกษา ให้คนได้ดูได้ศึกษาได้รู้แก่นแท้พระเครื่อง จะออนในช่องโหนกระแสนี่แหละ?

อุ๊ : พระเครื่องคือมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สร้างมาเป็นพันปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังทำอยู่ มันเป็นเครื่องยืนยันหลายๆ อย่าง แง่ประวัติศาสตร์ แง่อะไรด้วย


ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง

อุ๊ กรุงสยาม


เทียม ปัตตานี




พยัพ คำพันธุ์




-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000098855

“หนึ่ง กลิ่นกาญจน์” เปิดหลักฐานฟาดเซียนพวก “บอย” ท้า “หนุ่ม กรรชัย”
เผยแพร่: 16 ต.ค. 2568 14:15   ปรับปรุง: 16 ต.ค. 2568 21:32   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่กลัวตาย “หนึ่ง กลิ่นกาญจน์” เปิดหลักฐาน ซัด “บอย ท่าพระจันทร์” เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณะศักดิ์ 08 ไม่มีการปั๊มและตัดขอบ เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งจะมีใช้เมื่อปี 2540 กว่าๆ ฟาดเซียนพระที่ออกโหนกระแส พวกเดียวกับบอย แค่มาฟอกให้ เห็นรายชื่อก็รู้แล้วว่าคำตอบจะออกมายังไง ท้า “หนุ่ม กรรชัย” เอากล้อง 1000X ส่องพระก็จะรู้ความจริง

หลังจากที่เหล่าเซียนระดับบิ๊กทั้งหลายในวงการพระเครื่อง ขนทัพมาออกโหนกระแส พร้อมกับฟันธงว่า “เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเหลื่อนสมณะศักดิ์” เจ้าปัญหาของ “บอย ท่าพระจันทร์” เป็น “ของแท้” ทำเอาคนอยู่ฝั่งบอยเฮลั่น คิดว่ามันจะจบแค่นี้ แต่ล่าสุด “หนึ่ง กลิ่นกาญจน์” เซียนพระชื่อดัง ก็ได้ออกมาฟาดต่อ โวยเซียนพระที่มาออกโหนกระแสนั้น ล้วนเป็นพวกเดียวกับบอย และควรที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านโลหะ ประวัติศาสตร์มาออกจะได้ประโยชน์มากกว่า พร้อมกับเปิดหลักฐานหนังสือชี้แจงจากโรงกษาปณ์ ถึงการสร้างเหรียญคณาจารย์ของเอกชนที่พึ่งจะเปิดให้รับงานเอกชนเมื่อปี 2542 และยังเผยอีกว่า เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณะศักดิ์ 2508 นั้นไม่มีการปั๊มและตัดขอบ เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งจะมีใช้เมื่อปี 2540 ฉะนั้นการที่บอยอ้างว่า เหรียญนี้เป็นเหรียญปั๊ม และให้ดูที่การตัดขอบ จึงไม่ถูกต้อง

“วันนี้ได้เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาในรายการโหนกระแส เห็นแล้วก็ค่อนข้างจะเป็นฝ่ายเดียว ในความเป็นจริงก็รู้อยู่แล้วคือคนทางสายห้างสมาคมทั้งนั้นเลย อันนี้คือฝั่งของคุณบอยชัดเจนเลย คนที่เข้ามาดูหรือในคอมเม้นท์หลายหมื่นคนก็เม้นว่า แค่เห็นหน้าคนที่มาก็รู้แล้วว่า ผลจะออกมาเป็นยังไง พูดง่ายๆ มันมีธงไว้แล้ว รู้อยู่แล้วต้องตอบว่าแท้แน่นอน”

“บางครั้งความถูกต้องมันก็ไม่มีแรงพอที่จะสู้กับเรื่องของเงิน ความโด่งดัง ใครมีเงินใครคุมสื่อได้ คนนั้นก็ชนะไป ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับลูกหลานเราในอนาคต วันนี้ผมอยากให้มันเป็นเคสตัวอย่างว่า ถึงคุณจะพยายามบล็อกทุกอย่างฝ่ายเดียวได้ แต่คุณห้ามความรู้สึกความจริงไม่ได้ ทุกคนมองมาก็คิดว่า วันนี้มันคือการแสดง มันไม่ใช่ความรู้สึกจริงๆ มันไม่ใช่ตัวที่จะมาตัดสินว่า เหรียญนี้แท้ หรือ เก๊”  

“วันนี้มันเหมือนเป็นการฟอกเหรียญทองคำ 2508 เลื่อนสมณศักดิ์ ฟอกองค์กรเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ มากกว่าการตามหาความจริง สรุปแล้วสมาคมได้ สังคมไม่ได้ครับ เหรียญหลวงปู่ทวดคือเหรียญคณาจารย์ที่มีความศรัทธากันมาก มันมีประวัติศาสตร์ ควรเอาคนที่มีความรู้เฉพาะด้าน มันจะได้ ด้านโลหะ ก็เอานักด้านโลหะมาพูด เรื่องประวัติศาสตร์ก็เอานักประวัติศาสตร์พูด ไม่งั้นจะมีกรมศิลป์ไว้ทำอะไร”

เปิดหลักฐานหนังสือกองกษาปณ์ ยันเรื่องการสร้างปั๊มเหรียญคณาจารย์ มีการอนุญาตให้รับงานเอกชน 2542

“ผมได้ทำหนังสือในนามของภาคีเครือข่ายสะสมเหรียญคณาจารย์แห่งประเทศไทย ไปยื่นหนังสือให้คุณอี้ แทนคุณ ไปยื่นในรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภาขอความร่วมมือจากกรมธนรักษ์ที่ดูแลกองกษาปณ์ว่า กองกษาปณ์นี่เคยปั้มเหรียญคณาจารย์ไหม และปั๊มเมื่อไหร่ ปั๊มจริงไหม”  

“กองกษาปณ์ก็ทำหนังสือตอบกลับมาว่า การปั๊มเหรียญคณาจารย์หรือเหรียญเอกชน มีการปั๊มจริงในปีพ.ศ.2542 โดยการให้อำนาจกับผอ.กองกษาปณ์เปลี่ยนกฎหมายตั้งระเบียบการขึ้นมาเพื่อจะรับเหรียญเอกชนได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครบอกว่าเอาเหรียญคณาจารย์ไปปั๊มที่กองกษาปณ์ก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นเท็จ เพราะกองกษาปณ์จะเก็บต้นแบบไว้ 2 เหรียญเสมอ เพื่อเป็นประวัติศาสตร์และจัดแสดงในห้องในห้องนิทรรศการ อันนี้เป็นระเบียบการเลย” 

แฉเหรียญหลวงปีทวดทองคำเลื่อนสมณศักดิ์ 2508 ไม่สามารถดูขอบตัดเหมือนที่ “บอย” และเหล่าเซียนพระบอกได้ เพราะเครื่องปั๊มเครื่องตัดขอบที่สามารถตัดเป็นรูปใบเสมาได้ ต้องใช้เครื่องมิลลิ่ง ไดคัท หรือ CNC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มีการควบคุม พึ่งจะมีใช้เมื่อปี 2540 เป็นต้นไป หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้วนี่เอง

“วิธีการพิสูจน์ ทุกคนมุ่งไปที่ตัวขอบเหรียญ ไปอยู่ในเกมส์ของคุณบอย ซึ่งก่อนปี 2500 เอกชนไม่สามารถครอบครองเครื่องปั๊มได้ ถ้าเรามีเครื่องปั๊มเราก็ปั๊มเหรียญสตังค์หมุนเวียนมาแข่งกับรัฐบาลได้สิ ซึ่งกฎหมายไม่ยอม แต่พอหลังปี 2500 เครื่องของธนบัตรก็เข้ามา กฎหมายก็ให้เอกชนมีเครื่องปั๊มเหรียญได้ แต่ก็ยังไปติดเรื่องของตัวตัด ตัวปั๊มและตัวตัดเหรียญจะสามารถทำได้แค่รูปทรงกลมหรือรูปไข่ การทำตัวตัดก็ใช้เครื่องกลึง เอามือช่วยบ้างตะไบบ้าง”  

“ฉะนั้นเหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณะปี 2508 ที่เป็นรูปใบเสมา มันไม่สามารถปั๊มหรือเอาตัวตัดทำให้เป็นรูปใบเสมาได้ มันต้องใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า มิลลิ่ง หรือ ซีเอ็นซีแนวตัด หรือไดคัท เป็นเทคโนโลยีที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม มันมีหลักฐานว่าเครื่องนี้เข้ามาในประเทศไทยไม่เกิน 20 ปีที่ผ่านมานี่เองคือ 2540 กว่า แต่นี่มันเป็นเหรียญ 2508 มัน 60 กว่าปีมาแล้ว เพราะฉะนั้นไอ้ตัวตัดตัวนี้ที่จะเอามาตัดเหรียญรูปเสมามันไม่มี เมื่อไม่มีคุณไปปั๊มที่ไหน”

ฟันธงเหรียญปลอม หรือ เหรียญหล่อ
“เหรียญที่มีปัญหามันไม่มีความคมตึงมันเกิดได้ 2 อย่าง ก็คือ ถอดมาแล้วมาปั๊มพิมพ์มันเลยตื่น ถ้าถอดมาแบบนี้มันคือเหรียญปลอม ก็เลยทำให้มันเบลอไม่คมตึงเหมือนเหรียญต้นแบบ กับอีกแบบที่ไม่คมตึงก็คือ มันคือเหรียญหล่อ งานหล่อไม่ได้จะไม่โดนรีดและปั๊มกระแทกระดับ 10 กว่าตันเหมือนงานปั๊ม เพราะฉะนั้นมันจะไม่คมตึงเหมือนงานปั๊มที่มันโดนกระแทก”  
“สำหรับผมมองแล้วน่าจะเป็นงานหล่อ สรุปได้จาก 2 เรื่อง คือเทคโนโลยีตัดตัดรูปใบเสมา จะต้องใช้เครื่องมิลลิ่ง ไดคัท พึ่งจะมีมาเมื่อพ.ศ.2540 กว่า แต่เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์เป็นปี 2508 พอดูที่ตัวเหรียญมีร่องรอยของงานหล่อมากกว่างานปั๊ม เช่น เบ้าพิมพ์แตกลาน”

แฉที่เซียนบอกว่า เป็นงานปั๊ม เพราะมันคือการล็อกสเปค ต่อให้ประกาศจะให้ 100 ล้าน ก็หาเหรียญแบบ “บอย” ไม่ได้ เพราะมันคืองานหล่อ ชาติไหนจะหาเจอ

“ที่ต้องบอกว่า มันเป็นงานปั๊ม เพราะมันคือการล็อกสเปค ถ้าบอกเป็นงานหล่อทุกคนก็จะไปหาเหรียญหล่อไปขายเซียน ถ้าเซียนถือเหรียญหล่ออยู่แล้วบอกว่า มันคืองานปั๊ม ทุกคนก็จะไ4ปหาเหรียญปั๊มไปขายเซียน แล้วเซียนก็จะบอกว่า มันผิดพิมพ์ เพราะงานหล่อมันคือการขึ้นมือหุ่นเทียนแต่งตะไบทีละองค์ ไม่มีงานหล่อไหนที่ทำพร้อมกันแล้วจะเหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ มันจะมีรายละเอียดเหมือนเด๊ะเป็นไปไม่ได้ เขารู้ความลับตรงนี้ว่า มันคืองานแฮนด์เมค ต่อให้บอกไปว่า หาแบบนี้ได้ผมซื้อ 50 ล้าน เราก็หามันไม่ได้ เพราะการตะไบแต่งขอบเหรียญ มันไม่มีเหรียญไหนแต่งขอบตะไบเหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ทุกเหรียญ อันนี้เป็นหลักการง่ายๆ มันเป็นไปไม่ได้ ผมก็พูดได้ไปหาแบบนี้มา ผมให้ 100 ล้านเลย ชาติไหนคุณจะหาเจอ”

สรุปแบบน่าเกลียด ใครมีผมซื้อ


“มันเหมือนคำพิพากษาที่เรียกว่า ปิดปากทุกคน เถียงยังไงก็แล้ว จะว่ายังไงก็แล้วแต่ ถ้ามีแบบนี้ผมซื้อ คือเอาเงินมาเป็นตัวตัดสิน มองไปที่ตัวเลข วันนี้คุณบอยบอกเหรียญนี้ผมซื้อ 5 ล้าน ก็กลายเป็นเหรียญแท้เพราะมองกันที่ตัวเลข มันจะพิสูจน์ได้ไหมล่ะ ว่าซื้อเพราะแท้ หรือซื้อเพราะต้องการจบเรื่อง”

“แล้วถ้ามีคนที่มีเงินเยอะมากกว่านี้ สมมติเจ้าสัวท่านหนึ่งบอกว่า เหรียญแบบบอยนี่ผมไม่เล่น ผมจะเล่นอีกแบบหนึ่ง แล้วผมซื้อ 50 ล้าน อ้าว...เหรียญบอยก็เก๊เลยสิ มันเอาเงินเป็นตัวเลขได้เหรอ”

ปรากฏการณ์คณานุรักษ์ ช็อกวงการพระ เผยความผิดพลาดของเซียน หมดความน่าเชื่อถือ

“วันที่ตระกูลคณานุรักษ์ออกมามันคือช็อกวงการพระ เหมือนระเบิดลงกลางหลังคา มันเรียกว่าเป็นคำพิพากษาเลย คลิปนี้จะถูกจารึกไว้นานเท่านาน ต่อจากนี้ไปใครที่จะเก็บพระหลวงปู่ทวดสายใต้ เขาจะเอาคลิปนี้มาเปิดเป็นตัวเทียบ จะอยู่กับวงการตลอดไป จะเป็นหนามยอกอกเซียนสายห้างตลอดไป” 

“สำหรับเซียนนอกจากความน่าเชื่อถือ มันไม่มีใบการันตีอะไรเลยนะครับ สมาคมก็ตั้งขึ้นมาเอง ไม่มีกระทรวงไหนมารอบรับความรู้ความสามารถ เซียนมีแค่ความน่าเชื่อถือ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือการเสียความน่าเชื่อถือ มันเหมือนลงกลางใจเขา ถึงยอมไม่ได้ ถึงได้ออกมาเต้น และถึงได้ออกมาในโหนกระแส เพราะเขาอยู่ไม่ได้แล้ว”

“ตอนที่ตระกูลคณานุรักษ์ยังไม่ออกมาพูด ยังไม่มีประวัติ ก็ยังยิ้มกันได้ว่าของฉันของแท้นะ แต่พอมีการเปิดประวัติว่า เหรียญหลวงปู่ทวดเตารีดทองคำมีแค่ 2 องค์ ซึ่งอยู่กับพี่ชายพี่หนุ่ม กรรชัย และอีกองค์อยู่กับทายาทคณานุรักษ์ คำถามคือ แล้วที่เซียนต่างๆ คนโน้นนี้บอกก็มีล่ะ ซื้อขายกันหลาย 10 ล้าน มันงอกมาจากไหน ตอนนี้เอาไปคืนแล้วครับ คืนแน่นอน พอพระไม่มีประวัติ ก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยง แท้เปล่าไม่รู้ แต่เงินเราแท้แน่นอน แต่ไม่ได้คืนแค่พระหลวงปู่ทวดอย่างเดียวนะครับ พระคณาจารย์อื่นๆ อีก กูจะเชื่อมึงได้ยังไง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็ก”

“การออกมาของคณานุรักษ์มีผลแน่นอน การเปิดประวัติครั้งนี้ทำให้มุมมองพระเครื่องเปลี่ยนไปเลย 1 เราจะเชื่อเซียนได้ไง ในเมื่อเซียนบอกมีแค่ 3 บล็อก แต่เขามาเปิดเผยว่าว่า มี 16 บล็อก แล้วที่คุณบอกผิดพิมพ์ที่ผมทิ้งไปล่ะ ใครจะรับผิดชอบ แล้วผมจะเชื่อคุณต่อได้อย่างไร แล้วคณาจารย์อื่นอีกล่ะ มันสั่นสะเทือนแน่นอน”

“แล้วที่บอกว่ามีไม่กี่ร้อยองค์ แต่คณานุรักษ์เขาบอกมี 64,000 องค์ ถามหาความรับผิดชอบในวงการหน่อย จะรับผิดชอบยังไงกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้ หนังสือที่เขียนก็จะเชื่อได้ไง เพราะเซียนเขียน วันนี้คนที่เขียนหนังสือก็ไปออกโหนกระแส คนเขียนหนังสือก็คนกลุ่มของเซียน ใบเซอร์พระก็คนกลุ่มของเซียน เขาคุมตลาดได้ คำนี้ถึงได้บอกว่า พระอยู่ที่มือเซียนคือแท้หมด สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือ ต่อไปนี้เซียนจะมาบอกว่า พระมีจำนวนแค่นี้ อันนี้มันผิดพิมพ์ไม่ได้ คุณจะชี้แบบนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีหลักฐาน จะมาชี้แท้เก๊ไม่ได้ จะมาบอกว่าสร้างไม่กี่สิบองค์ไม่ได้”

เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณะศักดิ์ 2508 ไม่มีประวัติการสร้างเป็นไปไม่ได้

“เรื่องของตระกูลคณานุรักษ์ที่ไม่ได้สร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ก็อาจจะมีตระกูลอื่นสร้าง หรือทางวัดสร้าง ซึ่งก็ควรจะมีบันทึกมีภาพถ่าย อย่างการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังปี 2500 ก็มีหลักฐานการสร้างมีการบันทึกไว้หมดเลย เจ้าอาวาสยุคนั้นสร้างพระ มีเนื้ออะไร ใส่มวลสารอะไรบ้าง มันแปลกแน่นอนที่เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณศักดิ์ 2508 กลับไม่มีบันทึก เก่ากว่านี้ปี 2500 ก็มีบันทึก แต่ทำไมปี 2508 ตระกูลคณานุรักษ์บันทึก แต่เหรียญนี้ถ้าวัดสร้างหรือผู้อื่นสร้างก็ควรจะต้องมีบันทึก ตอนนี้ทางวัดช้างไห้ก็ยังเงียบอยู่”

“เรื่องบันทึกยังไงต้องมี มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี มันต้องบันทึกอย่างละเอียดเลย การทำพิธีได้มวลสารจากวัดใดบ้าง มันต้องสายสัมพันธ์วัดแต่ละแขนงมารวมกัน ต้องบันทึกอีกว่าทำกี่องค์ เจตนาเพื่ออะไร ฉะนั้นทางวัดจะไม่มีบันทึกไม่ได้ คนอื่นสร้างก็ต้องรักษาสิทธิประโยชน์ก็ต้องออกมาบอกว่า ฉันสร้างนะอันนี้ แต่มันก็เป็นไปได้หมด อาจจะมีการสร้างหรือไม่มีการสร้าง ต้องดูที่หลักฐาน แต่เหรียญไม่มีประวัติการสร้างคลุมเครือใครจะกล้าเก็บ”

อาฟเตอร์ช็อก คณานุรักษ์ แห่คืนหลวงปู่ทวดราคาหลายสิบล้าน

“ตอนนี้ที่รู้มาคือ มีการนำเอาหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีดทองคำมาคืนแล้วแน่ๆ ที่ก่อนหน้านี้เซียนต่างๆ บอกมีหลายองค์ ตอนนี้ลูกค้าก็เอามาคืนแล้ว บางคนซื้อพระไปเพื่อหวังกำไรในอนาคต แต่พอเหรียญไม่มีประวัติถกเถียงกันแบบนี้ความน่าเชื่อถือมันไม่มีอยู่แล้ว ก็ไปเอาเงินคืนดีกว่า”

เรียกร้องให้ใช้หลักสากลจริงๆ มาตรวจพระ เอาเครื่องวิทยาศาสตร์มาตรวจ ไม่ใช่สากลเฉพาะกลุ่ม

“ถ้าเราต้องการให้วงการพระเป็นแบบสากลจริงๆ มันต้องมีการพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ทุกวันนี้ที่เขาบอกว่าสากล มันคือสากลในกลุ่มไม่ใช่สากลจริงๆ ไปดูพวกนักสะสมของเก่าต่างๆ เขาใช้เครื่องมือตรวจหมด เชื่อในเครื่องมือการตรวจหลักเกณฑ์ความเก่า แต่ในบ้านเราใช้คนตัดสิน ฉะนั้นมันไม่มีความแน่นอน อย่างวันนี้เชื่อเซียน แต่พอมีหลักฐานมาเปิดเผยจากต้นตระกูล มันก็ใช้ไม่ได้แล้ว เชื่อคนใครรับผิดชอบ แต่ถ้าเชื่อเครื่องผู้ตรวจต้องรับผิดชอบได้ นั่นมันคือการเป็นสากล มันคือสากลทั่วโลกเขาทำ ไม่ใช่สากลเฉพาะกลุ่ม” 

“วันนี้เซียนอย่าทำตัวเหมือนไก่กับตะวัน คิดว่าตัวเองผู้นำการเล่นพระเครื่อง ถ้าไม่มีตัวเองพระเครื่องจะไปไม่ได้ เหมือนไก่ไม่ขันตะวันไม่ขึ้น ตัวเองคือที่สุด โลกหมุนรอบตัวเองไปหมด วันนี้ไม่ควรให้การตรวจพระเครื่องอยู่แค่พวกคุณ ควรทำให้เป็นสากลจริงๆ เอาความรู้หลักวิชาการจริงๆ มา ป่านนี้พระเครื่องแต่ละองค์ที่มีอายุเป็นร้อยปี กลายเป็นวัตถุโบราณ และน่าจะได้ขึ้นไปประมูลตั้งเท่าไหร่แล้ว ชาวบ้านที่เก็บจากคุณปู่คุณยายจะได้ไม่โดนตีว่าเก๊”

ท้า “หนุ่ม กรรชัย” เอาพระหลวงปู่ทวดทองคำเลื่อนสมณะศักดิ์ ส่องกล้องกำลังขยาย1000X

“ผมขอท้าเหรียญทองคำหลวงปู่ทวดเลื่อนสมณะศักดิ์ปี 2508 ให้พี่หนุ่ม กรรชัย จัดให้ผมซักแมทซ์ ขอเหรียญคุณบอยที่เป็นเหรียญปั๊ม มองยังไงก็เป็นเหรียญหล่อชัดเจน เอามาลงกล้องกำลังขยาย เหรียญที่เป็นเหรียญหล่อจะมีความพรุนไม่เรียบตึงเพราะไม่ได้ผ่านการรีดแบนและปั้มกระแทก ไม่มีทางเรียบตึงเหมือนงานปั๊ม ผมขอท้า ถ้าอยากให้หมดข้อครหาและพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ก็ได้การพิสูจน์จากกล้องกำลังขยาย คุณกล้าหรือเปล่าคุณบอย”

ออกมาชนขนาดนี้ ถ้าจะตาย อย่าให้ผมตายฟรี
“เรื่องความตายไม่มีใครไม่กลัวหรอก แต่ว่าเมื่อผมคิดจะทำตรงนี้ ก็คุยกับตัวเองและคุยกับลูกกับเมีย ที่สำคัญได้คุยกับคณาจารย์แล้วว่า ถ้าช่วยผมไม่ได้ ผมก็ช่วยคณาจารย์กับวัดไม่ได้เหมือนกัน ฉะนั้นการตัดสินใจของผม ถ้ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดและต้องจบแบบนั้นจริงๆ ก็ขอบอกกับทุกคนว่า อย่าให้ผมตายฟรี ให้สิ่งที่ผมทำเป็นที่ประจักษ์กับสังคมด้วย เปรียบเหมือนสืบนาคะเสถียร ที่เป็นบทเรียนให้กับทุกคน ผมเห็นพุทธคุณของท่าน บางครั้งบางเรื่องผมก็ไม่คิดว่าเซียนจะออกมาเปิดเผยความจริงอะไรแบบนี้ เรื่องที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมเชื่อว่าเป็นพุทธคุณของท่านที่อยากให้ความจริงเปิดเผย เพราะฉะนั้นผมตัดสินใจแล้วครับ อย่างน้อยวันนี้ได้มีสื่อมาทำตรงนี้ไว้ อย่างน้อยลูกผมก็จะได้รู้ว่า ผมเป็นพ่อที่เขาควรจะยกย่อง แค่นี้ก็พอแล้วครับ”

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ผัก 7 ชนิด กินมากไปอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ

 

ผัก 7 ชนิด กินมากไปอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ

เผยแพร่:    ปรับปรุง:    โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ท้องอืด ท้องเฟ้อ คือภาวะอาหารไม่ย่อย ซึ่งพบบ่อยมากถึง 25% ของคนทั่วไป จะทำให้รู้สึกปวดท้องช่วงบน เนื่องจากระบบการย่อยไม่ปกติ ส่งผลให้ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง และอึดอัด ไม่สบายตัว โดยอาการมักดีขึ้นและหายได้เอง หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังจนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ มากกว่า 50% ไม่สามารถระบุสาเหตุของภาวะท้องอืดท้องเฟ้อได้ แพทย์จะให้การรักษาด้วยการรับประทานยา รวมถึงปรับเปลี่ยนอาหารและพฤติกรรมการกิน

ผักที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ

1. บรอกโคลี
บรอกโคลี มีน้ำตาลเชิงคู่ที่เรียกว่า น้ำตาลแรฟฟิโนส ซึ่งร่างกายอาจมีปัญหาในการสลายน้ำตาลชนิดนี้ และอาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้น อีกทั้งบรอกโคลียังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งการที่ไฟเบอร์สูงแบบนี้ ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สได้มากขึ้นเช่นกัน

2. กะหล่ำดอก
กะหล่ำดอก ก็มีน้ำตาลเชิงคู่ที่เรียกว่า น้ำตาลแรฟฟิโนสเหมือนกัน อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า ร่างกายอาจมีปัญหาในการสลายน้ำตาลชนิดนี้ และอาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้น รวมถึงกะหล่ำดอกยังมีไฟเบอร์สูงอีกเช่นกัน ซึ่งก็จะมีส่วนเพิ่มแก๊สได้มากขึ้นตาม

3. กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี ก็ถือเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่ก่อให้เกิดแก๊ส โดยกะหล่ำปลีมีน้ำตาลแรฟฟิโนส ที่ถือเป็นน้ำตาลเชิงคู่ ซึ่งร่างกายอาจมีปัญหาในการสลายน้ำตาลชนิดนี้ และอาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้น รวมไปถึงกะหล่ำปลียังมีไฟเบอร์ที่สูง และมีส่วนเพิ่มแก๊สได้มากขึ้นด้วย

4. กะหล่ำดาว
ในกะหล่ำดาวก็มีน้ำตาลแรฟฟิโนส ถือเป็นน้ำตาลเชิงคู่เช่นเดียวกัน ร่างกายอาจมีปัญหาในการสลายน้ำตาลชนิดนี้ และอาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้นนั่นเอง และแน่นอนว่ากะหล่ำดาวก็มีไฟเบอร์ที่สูงเช่นกัน จึงถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุมีส่วนเพิ่มแก๊สได้มากขึ้นนั่นเอง

5. หัวหอมใหญ่
หอมหัวใหญ่ มีน้ำตาลธรรมชาติที่เรียกว่า ฟรุกโตส ซึ่งมีส่วนทำให้ลำไส้มีปัญหาในระหว่างการย่อย และฟรุกโตสก็อาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้นเมื่อแบคทีเรียในลำไส้สลายตัว รวมถึงแก๊สจากหัวหอมก็อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย

6. กระเทียม

โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้กระเทียม อาจจะมีอาการท้องอืดและมีแก๊สได้

7. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ดีต่อร่างกาย แต่การที่ไฟเบอร์เยอะ ก็อาจมีส่วนเพิ่มแก๊สได้มากขึ้นตามมา รวมถึงหน่อไม้ฝรั่ง ยังมีน้ำตาลเชิงคู่ที่เรียกว่า น้ำตาลแรฟฟิโนส ซึ่งร่างกายอาจมีปัญหาในการสลายน้ำตาลชนิดนี้ และอาจก่อให้เกิดแก๊สขึ้นได้

วิธีลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คือ การดื่มน้ำเยอะ ๆ และเดินหลังจากมื้ออาหาร เพราะการเดินหลังมื้ออาหาร 10 – 15 นาที จะช่วยให้ลำไส้เล็กบีบตัวได้ดี แบคทีเรียในลำไส้สร้างแก๊สน้อยลง ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกทางนะครับ

ข่าวโดย : พันนา วงศ์ใหญ่