วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่ 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2557 18:28 น.

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9570000112029 

 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่

ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว!! สำหรับคนที่มีเวลาว่างและอยากใช้เวลาที่มีให้เกิดประโยชน์ โดยการหางานพาร์ทไทม์ทำ แค่ลองเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ต ก็พบงานมากมายให้เราเลือกดู โดยเฉพาะนิสิต นักศึกษา ที่ต้องการหารายได้พิเศษระหว่างเรียน อาจจะเพื่อไว้ใช้จ่ายส่วนตัว หรือเพื่อเป็นเงินไว้ส่งตนเองเรียนจะได้ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกหางานพาร์ทไทม์ทำ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะหากเราอยากทำงานให้มีความสุข เราก็ต้องเลือกงานที่เหมาะกับตัวเราเองด้วย จึงจะทำงานได้อย่างสบายใจและไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนงานใหม่บ่อยๆ ด้วย
      
       มือไว ใจเร็ว นี่เลย!! ฟาสต์ฟูดจานด่วน
      
        แน่นอนว่าหลายคน คงเคยใช้บริการอาหารจานด่วนกันอยู่แล้ว เพราะสะดวก ประหยัดเวลา และก็เหมาะกับชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะเด็กๆ สมัยนี้ที่แทบจะรับประทานอาหารฟาสต์ฟูดเป็นอาหารหลัก ซึ่งภายในร้านก็จะเห็นพนักงานที่เป็นนักเรียน นักศึกษากันจนชินตา ถือเป็นงานที่ได้รับความนิยมสำหรับวัยรุ่น เพราะสามารถเลือกเวลาทำงานหลังเลิกเรียนได้ โดยจะคิดค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง และร้านอาหารฟาสต์ฟูดเหล่านี้ก็เปิดรับสมัครพนักงานอยู่สม่ำเสมอ แต่ร้านฟาสต์ฟูดแต่ละแห่งก็มีข้อดี-ข้อด้อยต่างกันออกไป Life on Campus จึงได้นำรายละเอียดร้านเด่นๆ มาให้ติดตามกัน เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มองหางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ จะได้นำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้นั้นเอง 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่ เริ่มกันที่ร้านฟาสต์ฟูดยอดนิยมคือ “ร้านเคเอฟซี” หรือไก่ทอดเคนทักกี เป็นธุรกิจอาหารจานด่วนในเครือยัม มีสาขาในประเทศไทยถึง 400 สาขาด้วยกัน ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ถือเป็นเจ้าแรกที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ที่มองหางานเสริมทำ เพราะมีจำนวนสาขามากมายกระจายทั่วภูมิภาค ซึ่งทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจในเรื่องสถานที่ทำงานและความสะดวกในการเดินทาง และยังเหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็ว มีความกระฉับกระเฉงในการทำงาน ซึ่งการสมัครงานร้านเคเอฟซีนั้นสามารถติดต่อได้ทางออนไลน์ ผ่านทางเว็บบริษัท http://www.yum.co.th/th/career.php ซึ่งในเว็บไซด์จะให้รายละเอียดตำแหน่งที่เปิดรับ และสาขาที่เปิดรับสมัครไว้ หรือจะเดินเข้าไปสมัครและนัดสัมภาษณ์ได้เลยทันที โดยมีค่าจ้างรายชั่วโมงอยู่ที่ 40 บาท 

อีกหนึ่งร้านฟาสต์ฟูดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือร้าน “แมคโดนัลด์” เปิดให้บริการครั้งแรกในไทยปี พ.ศ. 2528 จึงทำให้ปัจจุบันแมคโดนัลด์มีสาขาถึง 200 สาขาทั่วประเทศ เป็นร้านฟาสต์ฟูดที่ติดอันดับต้นๆ ที่คนนิยมรับประทาน ทำให้มีการประกาศรับสมัครนักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์หลายสาขา ซึ่งข้อดีของการมีสาขาจำนวนมากคือทำให้คนที่ต้องการหางานพาร์ทไทม์ทำสามารถเลือกได้ว่าจะทำสาขาไหน เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องการประหยัดเวลาในการเดินทาง และในเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทางอีกด้วย ซึ่งค่าจ้างรายชั่วโมงจะมีราคาเท่ากันกับร้านเคเอฟซี โดยสามารถสมัครงานผ่านทางเว็บ http://www.mcthai.co.th/join-us.php ได้
      
        นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารฟาสต์ฟูดอย่าง เบอร์เกอร์คิง ซับเวย์ เดอะพิซซ่า และอื่นๆ ที่เปิดรับสมัครนักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์อยู่เสมอในหลายสาขา ซึ่งข้อดีของมันอยู่ที่การมีสาขามากมายกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค ใครที่บ้านไกลก็สามารถเลือกทำสาขาใกล้บ้านได้ หรือเลือกทำในสาขาที่สะดวกต่อการเดินทาง ส่วนใหญ่มีร้านอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้นในการเลือกสถานที่ทำงานนั่นเอง คุณสมบัติทั่วไปของคนที่จะต้องทำงานด้านนี้คือ ต้องมีใจรักบริการ มีความขยันและความกระตือรือร้น เพราะขึ้นชื่อว่าร้านฟาสต์ฟูดก็ต้องใช้ความว่องไวรวดเร็วในการบริการลูกค้า โดยมีค่าจ้างอยู่ที่ 40 บาทต่อชั่วโมง ถือเป็นเรตมาตรฐาน และยังสามารถเลือกทำงานเป็นกะได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานพาร์ทไทม์ที่เหมาะสำหรับวัยเรียน

    หนอนหนังสือห้ามพลาด!! พนักงานขาดแคลน 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่ ใกล้เข้ามาแล้วกับมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 19 ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-26 เดือนตุลาคม 2557 งานนี้หนอนหนังสือที่อยากหางานพาร์ทไทม์ทำต้องเตรียมตัวกันให้ดีๆ เพราะภายในงานจะมีการออกบูธและการจำหน่ายหนังสือในราคาพิเศษจากสำนักพิมพ์ชั้นนำกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เช่น สำนักพิมพ์มติชน สำนักพิมพ์อินเลิฟ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักพิมพ์แจ่มใส ฯลฯ ซึ่งแต่ละสำนักพิมพ์ก็จะประกาศรับสมัครนักศึกษามาทำงานพาร์ทไทม์เป็นจำนวนมาก งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งงานพาร์ทไทม์สุดฮิตแห่งปีที่วัยรุ่นให้ความสนใจ อย่างไรก็ตามการทำงานขายสินค้าประเภทหนังสือนั้นต้องใช้ความถนัดและความสนใจของแต่ละคน รวมถึงบรรยากาศภายในงานต้องต่างกันแน่ๆ ตามบูธต่างๆ ที่แบ่งตามประเภทหนังสือ ดังนั้นเราจึงต้องคำนึงถึงความถนัดและความสนใจ อีกทั้งบุคลิกภาพของตัวเองว่าจะเหมาะกับการขายหนังสือประเภทไหนด้วย
     
        หากเป็นคนประเภท “มนุษยสัมพันธ์ดี” ชอบพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา ชอบบรรยากาศการซื้อขายที่ครึกคัก ต้องยื้อแย่งหนังสือกันอย่างสนุกสนาน ก็เหมาะที่จะทำบูธหนังสือประเภทนิยายรักกุ๊กกิ๊กสไตล์วัยรุ่น เช่น สำนักพิมพ์แจ่มใส สำนักพิมพ์อินเลิฟ สำนักพิมพ์อะบุ๊ก หรือสำนักพิมพ์เดอะ เบสท์ บุ๊ค เพราะสำนักพิมพ์เหล่านี้จะผลิตหนังสือแนวนวนิยาย, นิยายรัก-เรื่องสั้นหวานแหวว และพวกนิตยสาร พ็อกเก็ตบุ๊คต่างๆ ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้กลุ่มลูกค้าของสำนักพิมพ์เหล่านี้จัดอยู่ในวัยเด็ก-วัยรุ่นซะส่วนใหญ่


อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่       
        ส่วนบูธที่ได้รับความนิยม และติดอันดับคนแวะเวียนเข้ามาชมเยอะที่สุดนั้นคือสำนักพิมพ์ “แจ่มใส” เพราะเป็นสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือประเภทนิยายรักวัยรุ่น จึงไม่แปลกใจที่ยอดขายบูธนี้จะพุ่งทะลุสูงทุกปี เพราะคนที่เข้าเยี่ยมชมบูธจะมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งนั้น งานนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบและหลงใหลในหนังสือนิยาย และชอบเจรจาต่อรองกับกลุ่มคนวัยเดียวกัน ซึ่งทางแจ่มใสก็เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจมาร่วมทำงานด้วย ผ่านทางเว็บ http://www.jamsai.com/popup/jamgang_18/index หรืออีกชื่อที่เรียกว่า “แจ่มแจ๋วแก๊ง” โดยจะได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท และต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสำนักพิมพ์แจ่มใสอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ที่น่าสนใจคือมีการให้รางวัลกับผู้ที่ร่วมงานกับแจ่มใสด้วย เช่น รางวัลน้องป๊อป, รางวัลพี่ปิ๊ง และรางวัลขวัญใจแจ่มแจ๋วแก๊ง จึงไม่แปลกใจที่สำนักพิมพ์แจ่มใสได้รับความนิยมทั้งคนอ่านและคนที่สนใจร่วมงานด้วย 

อีกทั้งยังมีนักเขียนคนดังแวะเวียนมาตามบูธต่างๆ ด้วย ทำให้คนที่อยากใกล้ชิดและขอลายเซ็นจากนักเขียนที่ตนชื่นชอบแห่กันเข้าบูธหนังสือเหล่านี้อย่างไม่ขาดสาย หากใครชอบบรรยากาศครึกครื้นแบบนี้ลองทำบูธหนังสือประเภทนี้ดู น่าจะสนุกไม่น้อย และยังมีของสัมนาคุณเล็กๆ น้อยๆ ไว้แจกตามบูธ เช่นพวกกิฟท์ช็อป สำหรับใครที่ทำงานนี้ ไม่แน่อาจได้ติดไม้ติดมือไปด้วยก็ได้
      
        สำหรับคนประเภท “รักสงบ” ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบการซื้อขายที่ยื้อแย่งกัน รวมไปถึงไม่ชอบบรรยากาศเบียดเสียด อึดอัด แนะนำให้ลองสมัครเป็นพนักงานขายให้กับบูธวัฒนาพาณิช บูธพจนานุกรม หรือบูธประเภทแบบเรียน สื่อการเรียนการสอน และสารคดีประวัติศาสตร์ทั่วไป บูธเหล่านี้น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย-อลหม่าน เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นอีกประเภทที่ไม่ใช่วัยรุ่น ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนที่รักความสงบ
        ส่วนรายละเอียดงานนั้นหน้าที่หลักก็จะแนะนำหนังสือ เสนอรายละเอียดสินค้า เช็คสต๊อก แคชเชียร์ และบริการลูกค้าทั้งภายในและภายนอก สวัสดิการฟรีอาหาร 2 มื้อ ต่อวัน และต้องไปทำงานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสำนักพิมพ์จะกำหนดค่าจ้าง จะอยู่ที่ประมาณ 400 - 600 บาทต่อวัน
        ขั้นตอนการรับสมัครขึ้นอยู่กับสำนักพิมพ์จะกำหนด โดยจะให้คนที่สนใจสมัครงานเขียนประวัติตัวเอง และหนังสือที่ตัวเองสนใจ และเหตุผลที่อยากร่วมงานมาคร่าวๆ ส่งทางอีเมล์ หากใครเขียนได้ถูกใจสำนักพิมพ์ก็จะได้รับการติดต่อกลับ และบางสำนักพิมพ์จะคัดเลือกผู้สมัครจากความสนใจในหนังสือ และการมีความรู้เบื้องต้นในหนังสือที่จะขาย และมีการนัดอบรมก่อนการทำงานจริง 1-2 วัน
      
        งานพาร์ทไทม์ประเภทนี้จึงเหมาะกับคนที่รักงานบริการ รักการขาย ชอบคลุกคลีกับหนังสือ เป็นคนช่างพูดช่างเจรจา เพราะต้องใช้ความสามารถในการโฆษณาแก่ลูกค้า เพื่อเสนอสินค้าจากบูธหนังสือ และยังต้องเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนข้อเสียของงานประเภทนี้คือ เวลาทำงานประมาณ 9.00 น- 22.00 น อาจทำให้ต้องกลับบ้านดึก และสถานที่จัดงานก็อาจไกลสำหรับคนที่บ้านไกล ทำให้ไม่สะดวกเท่าไรนัก ดังนั้นงานนี้จึงเหมาะกับคนที่บ้านใกล้กับสถานที่จัดงาน และสามารถกลับบ้านดึกได้มากกว่า
      
       พาร์ทไทม์โดนใจ ห้างฯ ใกล้บ้านคุณ
      
        สำหรับคนที่ไม่มีข้อจำกัด คือสามารถทำงานที่ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานร้านฟาสต์ฟูด หรืองานแสดงสินค้าเท่านั้น ตัวเลือกก็อาจมีเยอะขึ้นไปอีก เพราะตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะมีร้านอาหารและร้านขนมมากมาย ที่เปิดรับนักศึกษามาทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้พิเศษช่วงระหว่างเรียน ซึ่งหน้าที่และค่าจ้างแต่ละร้านก็จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับร้านค้ากำหนด การหางานพาร์ทไทม์ตามร้านค้าเหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักศึกษาสนใจ จึงขอยกตัวอย่างงานพาร์ทไทม์เด่นๆ ที่วัยรุ่นนิยมทำมาให้ดูกัน..


อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่       
        งานพาร์ทไทม์ร้าน “สตาร์บัคส์” ถือเป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก และมีสาขาในประเทศไทยหลายแห่ง ส่วนงานพาร์ทไทม์ของร้านกาแฟแห่งนี้ก็จะมีตำแหน่ง พนักงานประจำร้าน รายละเอียดงานก็จะมีแนะนำและให้บริการเครื่องดื่มแก่ลูกค้า ชงกาแฟ และดูแลความเรียบร้อยภายในร้าน 

แน่นอนคนที่เหมาะกับงานด้านนี้จะต้องรักงานด้านบริการ สามารถทำงานเป็นกะได้ และที่สำคัญต้องมีความรู้เบื้องต้นในการชงกาแฟด้วย จึงทำให้พนักงานได้รับค่าจ้างสูงถึง 55 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าเรตค่าจ้างของร้านค้าอื่นๆ ที่อยู่ที่ 40 บาทต่อชั่วโมง เหมาะกับนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ และชื่นชอบการชงกาแฟ ยิ่งใครที่มีความฝันอยากมีร้านกาแฟเป็นของตนเอง ก็สามารถมาทำงานพาร์ทไทม์ฝึกประสบการณ์ตามร้านกาแฟแบบนี้ได้เช่นกัน ทาง Life on Campus จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลจากผู้ที่เคยทำงานร้านแห่งนี้..
      
       “ตอนแรกจะต้องเข้าเทรนงานเบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท พื้นฐานกาแฟตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ การเพาะปลูก การสกัดเมล็ด เรียนการทำกาแฟร้อน เย็น ปั่น และเรื่องการบริการก่อนค่ะ มีทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ ช่วงเดือนแรกจะเน้นกวาดถูพื้น เช็ดโต๊ะ ล้างแก้ว ล้างเครื่อง เดือนต่อๆ มาพี่ในร้านจะเริ่มให้ลองชงกาแฟและสอนสูตรต่างๆ และที่ร้านจะกำหนดไว้สำหรับงานพาร์ทไทม์ห้ามทำเกินวันละ 8 ชั่วโมง เพราะเป็นกฏหมายแรงงาน แอนทำอาทิตย์ละ 4 วัน ซึ่งค่าจ้างที่ได้จะออกเป็นรายเดือน ถือว่างานนี้สนุกและน่าตื่นเต้นเพราะลูกค้าจะมีคนต่างชาติด้วย เราก็ได้ฝึกไปในตัว และสามารถนำความรู้ความสามารถมาต่อยอดในอนาคตได้ แอนคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนรู้การชงกาแฟ และอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองค่ะ” แอน พนักงานพาร์ทไทม์ร้านสตาร์บัคส์ สาขาเอ็มโพเรียม เล่าจากประสบการณ์ 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่ สำหรับใครที่ชอบการแสดงออก หรือชอบเต้นคงจะเหมาะกับร้านนี้แน่นอน ร้านต่อมาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือร้านเอ็มเคสุกี้ ซึ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปคงจะเห็นพนักงานในร้านที่ใส่เสื้อสีขาวและใส่รองเท้านักเรียนเดินกันไปมา เพราะร้านแห่งนี้เป็นร้านที่มีสาขาทั่วประเทศกว่า 400 สาขาด้วยกัน ทำให้มีความต้องการพนักงานภายในร้านจำนวนมาก เพื่อตอบรับกับความนิยมรับประทานของผู้บริโภค และจุดเด่นของร้านนี้คือจะมีการเปิดเพลงให้พนักงานในร้านเต้นตลอดทั้งวัน เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากลูกค้าที่มานั่งรับประทานอาหารนั่นเอง โดยร้านเอ็มเคจะมีค่าจ้างวันจันทร์-ศุกร์ชั่วโมงละ 44 บาท ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ชั่วโมงละ 52 บาท และวันหยุดนักขัตฤกษ์ชั่วโมงละ 88 บาท ซึ่งอายุไม่ถึง 18 ปีห้ามทำเกิน 8 ชั่วโมง และนี่คือรายละเอียดงานจากปากผู้มีประสบการณ์ตรงในการทำงานร้านนี้
     
        “สำหรับคนทำพาร์ทไทม์ที่เป็นนักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่จันทร์-ศุกร์ ทำเวลา 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม เพราะทางร้านให้ทำได้ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงค่ะ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็ทำ 8 ชั่วโมง และจะมีคนจัดเวลาการทำงานให้ โดยให้นักศึกษาเอาตารางเรียนมาให้ที่ร้านดู และเขาจะจัดสรรเวลาให้เราทำงานไม่หนักเกินไป ตอนแรกก็จะเทรนงานในร้านก่อนค่ะ โดยให้ทางสาขาอบรบเบื้องต้นเกี่ยวกับเมนูอาหารและการบริการลูกค้า ส่วนเรื่องการเต้นที่เป็นสีสันของร้านถือว่าได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก และพนักงานในร้านก็ต้องซ้อมเต้น 2-3 วัน แล้วแต่ความยากง่ายของเพลง ส่วนใหญ่จะต้องเต้นกันทุกคน ยกเว้นคนในห้องครัวค่ะ ถือว่าได้ประสบการณ์และสนุกดีที่ได้ทำงานนี้ค่ะ” น้อง พนักงานร้านเอ็มเค สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ยกตัวอย่างให้ฟัง 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่  

อีกหนึ่งงานพาร์ทไทม์ที่สาวๆ นักศึกษาให้ความสนใจกันนั่นคือ ร้าน “สเวนเซนส์” เราจะสังเกตเห็นเวลาที่เข้าไปทานไอศกรีมที่ร้านนี้ จะเจอน้องๆ เด็กเสริฟหน้าตาน่ารักกันทุกคน พาร์ทไทม์ร้านนี้น่าจะเหมาะกับสาวๆ ที่ชอบการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม หลายสไตล์ และต้องมีใจรักบริการ มีความขยัน และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยได้รับค่าจ้าง 40 บาท ต่อชั่วโมง ซึ่งสำหรับงานพาร์ทไทม์นั้นจะต้องทำงานอย่างน้อยวันละ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสาวๆ ที่รักสวยรักงาม  

ตารางงานพาร์ทไทม์ แต่ละประเภทอย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่  

 

อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่

 อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่

 
อย่าปล่อยให้ว่าง! งานพาร์ทไทม์รอน้องๆ อยู่


อย่างไรก็ตาม การทำงานพาร์ทไทม์ในระหว่างเรียน ไม่เพียงแต่จะช่วยหารายได้เสริมและช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวเท่านั้น แต่การทำงานเสริมในช่วงระหว่างเรียน ยังช่วยให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เพราะการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานเสริมหรืองานหลัก เราต้องทำงานร่วมกับคนอื่นๆ มากมาย และยังช่วยให้เรามีประสบการณ์ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากห้องเรียนและในหนังสือบทเรียนต่างๆ ไม่แน่เราอาจจะค้นพบสิ่งที่เราชอบ หรือไม่ชอบ ในช่วงระหว่างที่เราทำงานเสริมก็ได้ และที่สำคัญยังได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และมีคุณค่าอีกด้วย

        ข้อมูลการสมัครเพิ่มเติม
       Kfc : http://www.yum.co.th/th/career.php
       Mcdonald : http://www.mcthai.co.th/join-us.php
       งานสัปดาห์หนังสือ(บูธแจ่มใส) : http://www.jamsai.com/popup/jamgang_18/index
       Starbucks : https://www.facebook.com/RecruitmentSBT
       MK : http://www.mkrestaurant.com/th/career
       Swensent's : http://parttime-2557.blogspot.com/2014/03/2557-3.html
      
       ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต